จารุวณฺโณภิกฺขุ

จารุวณฺโณภิกฺขุ
สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2554

สรภัญญ์หรรษา 2554

กลอนเตรียมตัว
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
กลอนบูชาพระรัตนตรัย
มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา            ขอบูชาคุณพระพุทธ ผู้สูงสุดในโลกา
ขอบูชาคุณพระธรรม อันน้อมนำเกิดปัญญา         ขอบูชาคุณพระสงฆ์ ผู้ดำรงศาสนา
ขอบูชาคุณบิดา คุณมารดาผู้เลี้ยงมา           ขอบูชาท่านอินทรพรหม ผู้สุขสมในสวรรค์
ขอบูชาธาตุเกษา ฝูงเทวาไปสร้างไว้          ในเมื่อครั้งพระองค์ เสด็จปลงบรรพชา
ตัดเกษเกล้าเกษา บรรพชาพระองค์เดียว              ฝั่งน้ำอโนมา ตัดเกษาไว้ที่นั้น
พระอินทรจึงนำไป บรรจุไว้ในสวรรค์               นามว่าธาตุเกษแก้ว ประดับแล้วด้วยมุกดา
ขอบูชาธาตุพระพุทธ อันสูงสุดในวิมาน              วิจิตรและโอฬาร ในวิมานสรวงสวรรค์
จบกัณฑ์บั้นบูชา นิฎฐิตาเท่านี้ เทอญ…..
กลอนคำบูชาพระรัตนตรัยอีกสำนวนหนึ่ง
ข้านี้ขอบูชา ดวงมาลามาลัยหอม               อีกทั้งดอกพยอม ข้าน้อมมาเพื่อบูชา
บูชาคุณพระพุทธ ผู้สูงสุดในโลกา                      บูชาคุณพระธรรม น้อมนำมาแสงสว่าง
บูชาคุณพระสงฆ์ หมดทุกองค์ไม่เหินห่าง            พระอินทรผู้สืบสร้าง องค์พระปรางค์ในสวรรค์
บิดาและมารดา เลี้ยงลูกมาให้สุขสันต์                 บูชาชั่วชีวัน พระคุณนั้นขอบูชา
กับทั้งครูอาจารย์ ผู้โปรดปราณวิทยา                  พระคุณที่กล่าวมา ตัวข้านี้อัญชุลี
ผลบุญที่บูชา ดวงมาลาพฤษาสี                          แก่ข้าฯในคราวนี้ จงสุขี..นิรันดร…..

กลอนมาลาดวงดอกไม้เก่า
มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา   ขอบูชาคุณพระพุทธ ผู้ได้ตรัสรู้มา
มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา            ขอบูชาคุณพระธรรม ผู้ได้นำบำเพ็ญมา
มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา            ขอบูชาคุณพระสงฆ์ ผู้ดำรงค์พระวินัย
มาลาดวงดอกไม้ มาตั้งไว้เพื่อบูชา            ขอบูชาคุณพระพุทธ และพระธรรมพระสงฆ์พร้อม
ประนมมือไว้ซอนลอน ประนมกรอยู่ทุกคน        ขอให้มีความสุข ทุกทิวาราตรีเทอญ.................
กลอนไหว้ครู
ปวงข้ายกมือไหว้ พระไตรแก้วรัตนา         บิดาและมารดา เลี้ยงลูกมาเจริญวัย
อีกทั้งพุทธองค์ ผู้ดำรงพระวินัย                         พระคุณอันยิ่งใหญ่ เลิศวิลัยพรรณา
พร้อมทั้งคุณพระธรรม อันน้อมนำเกิดปัญญา      พระคุณสาวะกา ศาสนาแห่งโคดม
เทพไท้ธรณี เป็นสักขีชี้ชวนชม                         อีกทั้งคุณพระพรหม ยมราชบนอากาศ
คุณครูผู้ศิษย์สอน ด้วยสุนทรอันองอาจ               พร้อมทั้งผู้เป็นปราชญ์ ฉลาดรู้ครูอาจารย์
ตลอดทั้งพระอินทา ทั้งเทพาในวิมาน                 พระคุณอันไพศาล ขอวอนวานจงได้มา
มาอยู่คู่เคียงข้าง อย่าได้ห่างจากกายา          ปัญญาไหลหลั่งมา ดังห่าฝนชลธาร
สวดไปไม่ไพเราะ เสนาะหูครูอาจารย์                 สำเนียงเสียงบ่หวาน ประทานโทษท่านเมธี
อาจารย์ผู้ศิษย์สอน ผู้แต่งกลอนนักกวี                 นามท่านชื่อบุญศรี วีระธรรมน้อมนำมา
พระธรรมคำสั่งสอน ของบวรศาสดา                  ทุกท่านที่ได้มา สุขกายาทุกท่านเทอญ…..
กลลอนกาเหว่าวอน
กาเอยกาเวาวอน ร้องเสียงอ่อนตอนเย็นๆ             กาเวาร้องเสียงเป็น ตะเวนร้อนอ่อนมะโน
กาเวาร้องเสียงโตเอย ฟังก่อนเว้ยน่าเย็นใจ            กาเวาร้องเสียงใส เพราะจับใจอรชร
จับอยู่คอนต้นไทรสูง ร้องเรียกคู่ว่าเวาเว้ย            กาเวาเอยร้องเสียงหวาน ฤดูกาลใบไม้โรย
ใจวีและใจวอน ร้องอยู่คอนเสียงโยนๆ                เดือนสามและเดือนสี่ ใบไม้ปลิวลมมาเชย
กาเวาเอยจับสาขา คิดไปมาสังเวชตน                  กาเวาร้องเสียงคน น่ากังวลในเสียงกา

กลอนพระคุณแม่ ( สำหรับเยาวชน )
ฟังก่อนเถิดแม่จ๋า กรุณาโปรดฟังก่อน                 จากใจลูกทุกคน ในสากลอุทธาหรณ์
หลับตื่นลูกผวา หามารดาอยู่สอนลอน                          ฝากลมฟังข้าวอน คำสัญญาจะให้ไว้
เทพไท้อยู่แห่งไหน เป็นพยานให้ข้าเทอญ...ซ้ำ
(เดี่ยว) ลูกจะตั้ง ใจเรียน ตามแม่สั่ง ลูกจะคอย เชื่อฟัง ดังแม่สอน
ตั้งสัจจะ ในจิต คิดอาวรณ์ ตามคำสอน ของแม่ ผู้เมตตา
ลูกจะเป็น คนดี ของคุณแม่...เอย ไม่ว่าแต่ วันนี้ หรือวันหน้า
หรือวันใด ลูกใหญ่ โตขึ้นมา อาสาเลี้ยง แม่แทน ค่าน้ำนม
จะป้อนข้าว ป้อนน้ำ ยามแม่แก่ จะดูแล ยามแม่ไข้ ให้เหมาะสม
แม้เลือดหลั่ง หมดร่าง ยังภิรมณ์ ข้าน้ำนม ของแม่ ยิ่งกว่าเอย...
(พร้อมกัน) นี่เป็น เพียงเรื่องราว ฟังลูกกล่าว เถิดแม่จ๋า
เศษส่วน หนึ่งในล้าน ยังไม่ทันคุณมารดาจบลง ตรงนี้ก่อน เลยให้พร ผู้มารดา
คุณพระ จงรักษา คุณมารดา ของข้าเทอญคุณพระ ....จงรักษา...คุณมารดา....ของ....ข้า...เทอญ........
กลอนพระราชดำรัส
ปวงข้าทั้งหลายนี้ สดุดีถวายกลอน            แด่องค์พระภูธร เป็นคำกลอนสาระพัน
ราชกิจพระองค์มี ทุกถิ่นที่ทรงบุกบั่น                  เหนือใต้ทั่วเขตขัณฑ์ ไม่ทรงหวั่นต่อผองภัย
ทรงประธานโครงการหลวง ให้เหล่าปวงประชาไทย      ดับทุกข์และผองภัย น้ำพระทัยเหลือคณา
โครงการป่ารักน้ำ หญ้าแฝกช้ำตามเชิงผา             ป้องกันการชะพา ให้พนาเขียวขจี
ไร่นาสวนผสม น่าชื่นชมโครงการนี้                   ทำเกษตรแบบพอดี มีรายได้พอเลี้ยงตัว
คู่ฟ้าพระราชินี ทุกถิ่นที่เสด็จทั่ว                         ขจัดทุกข์ที่มืดมัว ทุกครอบครัวสดุดี
มีศูนย์ศิลปาชีพ เป็นประทีปที่สุขศรี                   ฝึกฝนอาชีพดี ทุกถิ่นที่นิยมไทย
ภาคใต้หญ้าลิเภา เครื่องถมเหญเนื้อใสใส             อีสานนั้นเส้นใย ทอผ้าไหมมัดหมี่ตาม
ทั้งสองทรงลำบาก แสนเหนื่อยยากทุกทั่วยาม      ทรงเพื่อชาวสยาม ทั่วเขตคามได้อยู่ดี
สมญาพ่อฟ้าหลวง แม่ฟ้าปวงประชาชี                แซ่ซร้องสดุดี ทุกถิ่นที่ถวายพร (ซ้ำ)
กลอนพระคูณแม่
โปรดเถิดท่านเจ้าขา ฟังฉันว่าเป็นคำสอน   เรื่องราวอันยิ่งใหญ่ ฟังไว้เป็นอุทาหรณ์
จะสุขหรือจะทุกข์ ทำเพื่อลูกปลูกคำสอน             โปรดฟังคำแม่วอน ตอนเลี้ยงมากว่าวันนี้
เจ็บปวดในวันนั้น วันแม่คลอดยอดชีวี                เลือดนองธรณี ในวันนี้แม่เกือบตาย
โอบกอดยอดชีวิต คิดเห็นหน้าอยู่ไม่หาย             จะเป็นลูกหญิงชาย ใครก็ได้แม่ก็รัก
นับต่อแต่วันนี้ ชีวิตนี้เพื่อลูกรัก                          เติบโตจงรู้จัก จงรู้จักคุณมารดา
อยู่แห่งตำบลไหน ใกล้หรือไกลแม่ตามหา ป่วยไข้แม่หายา ยามนิทราแม่กล่อมนอน (ซ้ำ)
(ร้องเดี่ยว ) อุ้มลูกน้อยเข้าเปลแล้วเห่กล่อม ริ้นไม่ไต่ไรไม่ตอมถนอมขวัญ
ทั้งมูตคูตแม่ชะล้างทั้งกล่อมนอน ทั้งข้าวป้อนแม่เตรียมไว้ให้อย่างดี
เสียงลูกร้องแม่ต้องรีบกลับมาหา โอ้ลูกจ๋าแม่ของลูกอยู่ที่นี่
เรียกขวัญลูกซุกอกแม่ด้วยปราณี นมอยู่นี่ดื่มเถิดลูกให้ชื่อใจ
แต่ลูกโกรธลูกกัดจนแม่เจ็บ......โอ้ย เจ็บโอ้ยเจ็บจนแม่ทนไม่ไหว
มีบางครั้งแม่ต้องพลั้งเผลอไป มือแม่ไขว่ขึ้นฟ้าว่าจะตี
แต่มือแม่ต้องเงื้อข้างอยู่กลางฟ้า โอ้ลูกจ๋าแม่เกือบเผลอตีแล้วนี่
แม่ขอโทษชักมือกลับในทันที เจ็บเพียงนี้แม่ยังตีเจ้าไม่ลง...เอย
(ร้องหมู่) นี่เป็นเพียงเรื่องราว ที่ฉันกล่าวอุทาหร
ฝากไว้เป็นคำสอน สรภัญท่านเจ้าเอ๋ย
จบลงตรงนี้ก่อน จึงให้พรสวัสดี
แม่พระธรณี จงรักษาลูกข้าเทอญ..แม่พระธรณี จงรักษาลูกข้าเทอญ..





กลอนอาลัยพระพี่นางฯ (ใหม่)
สมเด็จพระกัลยา แพทย์อาสาทรงตั้งไว้      ด้วยรักและห่วงใย อนามัยปวงประชา
นำหมู่แพทย์อาสา พัฒนาทุกแห่งหน                  บัดนี้มาวายชน เราทุกคนล้วนอาลัย
ขอให้ท่านจงไปดี เหล่าน้องพี่ขออวยพร              ตั้งใจประนมกร ขอไหว้วอนองค์เทวา
84ปีแห่งพรรษา ท่านต้องมาด่วนลาลับ               จากไปไม่หวนกลับ ขอให้ท่านหลับพระกายยา
ช่วยนำดวงวิญญา พระพี่นางสู่สวรรค์                 ถึงชั้นดาวดึงส์ ขอให้ถึงพระนิพพาน
ขอให้ท่านสุขสำราญ ในชั้นฟ้าวิมานเทอญ
แม่แม่นี้มีความหมาย มีพระคุณมากมาย หลายสถาน
แม่เป็นได้หลายสิ่งหลายประการ เป็นธนาคาร เป็นพระคุณ เป็นกำไร
แม่เป็นผู้ให้กำเนิดเกิดลูกรัก แม่เป็นผู้ให้ เป็นที่พักพิง ที่อาศัย
แม่เป็นผู้การุณอุ่นกายใจ แม่เป็นผู้ให้อะไร ไม่วางมือ
ลูกเจ็บไข้แม่ให้ยารักษาเจ้า... ลูกโตมาแม่ส่งเจ้า...เรียนหนังสือ
ลูกต้องการตำราแม่หาซื้อ ลูกปรึกษาหาลือแม่ยินดี ลูกคนใดทำกรรมให้แก่แม่
สุดเลวแท้ชั่วช้าสิ้นราศี ลูกด่าแม่ตีแม่ลูกกาลี ลูกไม่ดีทำให้แม่...อกซ้ำน้ำตาริน
ดวงใจแม่สะอาดแท้กว่าทุกสิ่ง ดวงใจแม่สะอาดแท้ยิ่งกว่าสิ่งไหนๆ ดวงใจแม่สะอาดเกินกว่าสิ่งใดๆ ดวงใจแม่มีไว้เพื่อลูกเอ๋ย...........ลูกเติบโตเป็นคนดีมีคุณค่า เชื่อใจว่าดีกว่าสิ่งไหนๆที่ให้แม่
น้ำตาแม่ไหลรินเมื่อลูกลาย(ร้าย ) น้ำตาแม่เป็นสายเมื่อลูกหมิ่น
น้ำตาแม่ไหลหยดลดแผ่นดิน เมื่อได้ยินลูกเสเพล เนรคุณ
โอแม่จ๋าพระคุณแม่แผ่ปรกเกล้า โอ้แม่จ๋าพระคุณแม่เฝ้าเกื้อหนุน
โอ้แม่จ๋าพระคุณแม่ ผู้เมตตา แผ่การุณ โอ้แม่จ๋าพระคุณแม่ผู้ค้ำจุนลูกไว้ไม่ห่างไกล
ร้อยมะลิร้อยใจที่ให้แม่ ร้อยตระหนักแท้ที่แม่ให้
ร้อยลำนำลำลึกอุ่นกายใจ บูชาไว้ความเลื่อมใส่ แห่งจิตใจ
คือคุณงามความดีแห่งชีวิต คือความคิดความเชื่อมั่นผูกพันยิ่ง
คือความโอบออ้มการุณอุ่นกายจริง เหมือนทุกสิ่งแม่..พระ..ประจำ..ใจ.........
กลอนห่อข้าวน้อย (ข้าวปะดับปะดิน)
โอ้โอ๋ลูกเราเอ๋ย จงชดเชยการทำทาน         วันนี้ยมพระบาล ท่านประทานให้แม่มา
เพื่อรับกุศลา ขอลูกจงมาทำบุญ                          เกื้อกูลและอุดหนุน เชิงกองบุญให้แม่เถิด
ตั้งแต่ลูกบังเกิด แสนประเสริฐแม่ดีใจ                 กล่อมเลี้ยงแต่เยาว์วัย จนกระทั้งโตเป็นนาย
ขอลูกอย่าเบื่อหน่าย พ่อและแม่จะคอยทาง เห็นแต่คนทั้งหลาย เขามายายห่อข้าวน้อย
คอยลูกหญิงและลูกชาย เจ้าช่างหายไม่เหลียวแล   ชะแง้หาไม่เห็น หรือจำเป็นอย่างไรหนา
เพื่อนๆได้เต็มตะกร้า แม่นี้หนาไม่ได้เลย              ลูกเอ๋ย จงสงสาร ดวงวิญญาณแม่นี้นา
ข้าวปั้นเพียงเล็กน้อย แสนอร่อยจงทำทาน           ให้พระสงฆ์ ผู้เบิกบาน ดวงวิญญาณจึงจะได้
ลูกจ๋าแม่ลาก่อน ขออวยพรจงโชคดี
กลอนผีพ่อผีแม่คอยส่งข้าวสาก
บุญเดือนสิบกายเดือนเก้า เจ้าฮู้บ่อแม่คอยหาลูกคำเอย ข้าวประดับดินได้กลายมา
บ่อได้กินแม่วินม้อย คอยลูกหญิงลูกชายนั้นฮอดบ่อมาจังหัน เพลนั้นได้นั่งต่อ
บุญข้าวสากแม่กระยังคิดต่อสิได้กินห่อข้าวน้อยนำเจ้าอีแม่เอย เฮ็ดอีหยั่งละลูกเอย
บ่อหว่งแม่ทั้งหญิงชาย แม่ผู้ตายได้ทนรอนั่งพอหิวอยู่ทางพี้ เพิ้นกายหนีสองตายายได้คอยถ่า
บ่อเห็นลุกแม่มาในวันนี้ได้นั่งส่อง เฮือนใกล้กันมาฮอดพี่ฮอดน้อง ลูกเฮาช่างบ่อมา....
เห็นไทคุ้มเพินนั้นน้า มาเต็มเดิ่นศาลาวัดนอคำนอ จัดอาหารหวานคาวได้กลิ่นอายน้ำลายย่อย
พ่อแม่คอยอยู่ริมจ้าย บังกำแพงเขามายายไผ่มันนั้นกระเอิ้นใส่ ผีผู้อื่นพอได้แล้วเพิ้นกระไป
สองตายายได้นั่งถ่า โอ้นอหล่าช่างบ่อมา ยากนำสวนไฮ่ฮั่วคือบ่อฝากนำเขามา นอคำนอ .....
ยากนำนานำงัวฝากเพิ้นมากะยังได้ เป็นอันใดน้อคำก้อน มื่อนี่แม่ขอวอนนำลมนั้นบอกลูกแน่
บุญข้าวสากเป็นบุญเลี้ยงผีพ่อผีแม่ เทิ่งญาติพี่น้อง ของเฮานั้นผู้บ่อยัง พระเพิ้นเทศน์สอนสั่งไว้
มื้อนี้ส่งละทางบุญ ไผผู้นำมาทานให้ผู้ตายในวันนี้ แต่ละปีมีเพียงครั้ง ลูกแม่บ่อมาเลย.........
บ่อได้ส่งข้าวแม่ มาส่งสารผียายแก่ มานั่งถ่าลูกค้อม้อ โอยรอเจ้ากะบ่อมา พี่น้องเพิ้นคิดพ้อ
หยาดน้ำส่งได้เพียงอาย บาดลูกสาวลูกซายเฮา มาซางลืมน้อคุณเจ้า บ่อส่งทานให้สองเฒ่า.....
เคยเลี้ยงมาพาเจ้าใหญ่ ยามพ่อแม่ตายไป ขอเพียงบุญและหยาดน้ำ บุญนำค้ำฮอดผู้ยังฮอดผู้ตาย
.......นั่นละนา.....ลูกแม่เอ้ย..........เอ่ย............................................................
กลอนประเพณีสิบสองเดือน
สารภัญญ์ต่อไปนี้ ประเพณีสิบสองเดือน             พวกฉันจะขอเตือน ผู้รองเรือนจงจำเอา
เดือนอ้ายบุญกุ้มข้าว ข้าวขึ้นเล้าปอดะลำ              เดือนยี่บุญข้าวกรรม พระสงฆ์ให้ศีลดี
เดือนสามบุญข้าวจี่ ในเดือนสี่บุญพระเวส            รวมฟังพระสงฆ์เทศน์ บุญพระเวสร่วมเทท่าน
เดือนห้าบุญสงกรานต์ สุขสำราญร้องเฮฮา           เล่นน้ำเล่นกีฬา มีวิชาสีสมใจ
เดือนหกบุญบั้งไฟ จุดตะไลบั้งไฟหมื่น               เดือนเจ็ดบุญเบิกบ้าน และทำนาไถคราดหว่าน
เดือนแปดอธิฐาน สะปาทานเข้าพรรษา               เดือนเก้าบุญข้าวประดับดิน แจกของกินเพื่อผู้ตาย
เดือนสิบบุญข้าวสาก แจกสลากน้อมถวาย            สองเดือนนี้มีฟูมฟาย อาหารหลายบุญกฐิน
เดือนสิบเอ็ดออกพรรษา บุญผ้าป่าบุญกฐิน เดือนสิบสองลอยกระทง น้ำไหลลงห้วยลำคลอง
พี่และน้องร่วมสาบาน ช่วยทำบุญและให้ทาน      แต่โบราณสร้างความดี ประเพณีพวกเราเอย........
กลอนซักถามหมู่บ้าน
พบกันในวันนี้ สวัสดีทุกๆท่าน                ทุกคนมาในงาน จิตชื่นบานสำราญดี
พวกฉันขออภัย จะได้ถามในเวที                        นักสวดในวันนี้ มีกี่คนให้บอกมา
ชื่อบ้านของพวกท่าน ทุกถิ่นฐานจงกล่าวจา          หวังว่าไม่โกธา ริษยาแต่อย่างไร
เดี๋ยวนี้ผู้ใหญ่บ้าน นามของท่านชื่ออะไร             ขึ้นหมู่ที่เท่าไร ตำบลใดให้ไขขาน
กำนันและสมภาร วัดของท่านชื่ออะไร               ผู้ว่าของจังหวัด นามบัญญัติว่าอะไร
ส.ส.ที่สอบได้ นามอะไรให้บอกมา           ประธานสงฆ์ตำบล และประธานสงฆ์อำเภอ
มีคุณอันเลิศเลอ บอกมาเดอท่านนามใด               หัวหน้าสงฆ์จังหวัด นามบัญญัติว่าอะไร
ถ้าได้ให้บอกมา ถ้าบ่ได้ให้ยอมเทอญฯ





กลอนตอบบอกบ้าน
ฟังก่อนท่านทั้งหลาย ฟังบรรยายในทางนี้           พบกันในวันนี้ สวัสดีมีสุขสันติ์
บ้านฉัน………. บอกด้วยดีมิแปรผัน                  เป็นบ้านที่ใฝ่ฝัน เราอยู่กันสบายดี
ตำบล………. ประชาชนสามัคคี                        อำเภอ………. จังหวัด………..
ขอให้ท่านทั้งหลาย หญิงและชายได้สมาน จำไว้ให้นานๆ สถานทองบ้านของฉัน
แยกเป็น……หมู่บ้าน ในบ้านนี้เกษมสันติ์           หมู่……ก็ขึ้นกัน นาย………..เป็นผู้ใหญ่
กำนัน………… ยิ้มแย้มดีศรีวิไล                       ทำนาเป็นหลักใหญ่ และค้าขายเป็นการดี
พากันมุ่งกระทำ กิจกรรมทุกวิธี                         ข้าวน้ำสมบูรณ์ดี ในบ้านนี้มีเนืองนอง
นายอำเภอ….. ท่านผู้ว่า…….ผู้เป็นใหญ่              ผู้แทนชื่อ………. ประชากรได้เลือกหา
คนดีของปวงชน มีผลงานอุตสาหะ           ไม่ละการพบหา ประชาชนทุกแห่งหน……..
เจ้าอาวาสชื่อ…….. เจ้าคณะตำบลก็ชื่อ……..        เจ้าคณะอำเภอชื่อ….. เจ้าคณะจังหวัดชื่อ……
คำถามง่ายอย่างนี้ มีอีกบ่ให้ถามมา                      บ่แม่นพวกฉันท้า ระวังหนาจะถามคืน
กลอนวันมาฆะบูชา
วันเพ็ญแห่งเดือนสาม สง่างามตามปักษ์มี            มาฆะปุณณะมี ในวันนี้ดีนักหนา
เป็นวันกิจกรรม วันสำคัญศาสนา                       เป็นวันสาวะกา พร้อมกันมาจะตุรงค์
หนึ่งพันและสองร้อย ยังมีห้อยห้าสิบองค์            ทุกองค์อรหันต์ มาพร้อมกันไม่ได้นัดหมาย
พระองค์ทรงแสดง ทำให้แจ้งธรรมธาตุ               พร้อมกันอภิวาท ฟังโอวาทด้วยใจใส
หัวใจศาสนา ที่เรียกว่าธรรมวินัย                        คำสอนเป็นหลักใหญ่ บัญญัติไว้เป็นแก่นสาร
โอวาท์ปาฎิโมกข์ ทำให้โลกเป็นสุขสันต์             ธรรมนั้นมีสามข้อ โดยย่อๆขอจงฟัง
ข้อหนึ่งห้ามทำชั่ว กรรมหมองมัวนั่นอย่าทำ        ผลกรรมสิตามทัน ชีวิตนั้นสิตกต่ำ
ข้อสองให้ทำดี ล้างราคีความหมองมัว                 นำตัวให้พ้นภัย มีสุขใจทุกคืนวัน
ข้อสามจิตแจ่มใส ให้ทำใจสุขสบาย          ความร้ายสิบ่มี คุณความดีสิคุ้มเรา
พระเจ้าทุกทุกองค์

กลอนเจ้าชายสิทธัตถะ
บัดนี้ขอกล่าวกลอน อันสุนทรตามธรรมะ เจ้าชายสิทธัตถะ
เสด็จออกบรรพชา พระองค์ทรงเบื่อหน่าย กามวิสัยเคยมีมา
โลกีย์คอยบังตา เหมือนหมู่เมฆบังอัมพร ปราสาทสามฤดู
ที่เคยอยู่ไม่อาวรณ์ ดึกดื่นคนนิ่งนอน ก็ลาจรจากพิมพา
ราหุลแม้เคยรัก ก็ห้ามหักไม่ห่วงหา ข้ามฝั่งอโนมา
กับมิ่งม้าอาชาไนย ฉันนะก็ติดตาม ด้วยใจงามไม่ห่างไกล
ปลงเกศด้วยขรรค์ชัย แล้วห่มเหลืองเรืองสกล ดั่งเทพยดา
จากเมืองฟ้ามาเมืองคน เทพซ้องทุกแห่งหน ดลทุกข์ผู้ให้บูชา
พระองค์สู้กับมาร ไม่สะท้านด้วยหาญกล้า ตรัสรู้ได้ด้วยปัญญา
มีดวงตาที่เห็นธรรม รู้ทางที่ถูกผิด ไม่ข้องติดกับบาปกรรม
เป็นพุทธประเสริฐล้ำ นำชาวชนพ้นสงสาร เป็นเอกศาสดา
สอนธรรมะ มายาวนาน พระธรรมนำใจบาน สะอาดเอี่ยมพิสุทธิ์ใส
ควรเราผู้ชาวพุทธ อย่านิ่งหยุดให้หม่นไหม้ รักษ์ธรรมอันอำไพ
แล้วจะไกลไปจากมาร เว้นชั่วแล้วทำดี ดวงฤดีจะเบิกบาน
รักษาไตรทวาร จะผ่านพ้นหนทางทราม สังคมก็จะสุข
เข้าสู่ยุคสันติงาม รักษ์ธรรมไม่ย่ำหยาม เมืองไทยเราย่อมร่มเย็น
กลอนอาลัย สมเด็จพระพี่นางฯ
สนามแข่งวัดบ้านกุดสระ                        สมเด็จกัลยา แพทย์อาสาทรงตั้งไว้
ด้วยรักและห่วงใย อนามัยปวงประชา.....(ซ้ำ)       นำหมู่แพทย์อาสา อภิบาลทุกแห่งหน
บัดนี้ได้วายชน เราทุกคนร่วมอาลัย.........(ซ้ำ)       ตั้งใจประนมกร ขอไหว้วอนองค์เทวา
ช่วยนำดวงวิญญา พระพี่นางสู่สวรรค์.....(ซ้ำ)       ถึงชั้นดาวดึงส์ หรือว่าถึงพระนิพาน
ขอให้สุขสำราญ ในชั้นฟ้าวิมานเทอญ....(ซ้ำ)       ก่อนหน้า: นรกที่อยู่ของคนบาป
ถัดไป: คำคม (ปรัญญาในการใช้ชีวิต)                ตอบกลับ แบ่งปัน
กลอนกราบลา
พวกดิฉันของกราบลา ถึงเวลาสมควรแล้ว            ด้วยกิจทางบ้านมี กรณีอันพึ่งทำ
ขอลาคุณพระพุทธ และพระธรรมพระสงฆ์พร้อม ด้วยจิตอันนอบน้อม พร้อมทั้งครูผู้สถิตย์
ด้วยจิตอันเลื่อมใส ขอลาไปทั้งวิหาร                            ที่นี่เป็นสถาน อันเบิกบานวิไลเลิศ
อันประเสริฐสโมสร นิกรชนทั้งผู้ฟัง                            ขอให้มีความสุข ทุกๆคน ขอลาเทอญฯ
กลอนกราบลา
พวกดิฉันขอกราบลา ถึงเวลาสมควรแล้ว                       ด้วยกิจทางบ้านมี กรณีอันพึ่งพา
ขอลาทั้งพระพุทธ แลพระธรรมพระสงฆ์พร้อม             ด้วยกิจอันนอบน้อม พร้อมทั้งครูผู้มีคุณ
ขอบุญส่วนอันนี้ จงเกิดมีแก่ข้าเทอญ ฯ

จัดพิมพ์เรียบเรียงโดย

พระมหาหนูพร   จารุวณฺโณ
น.ธ. เอก  ป.ธ. ๓  ศศ.บ.
เลขานุการเจ้าคณะอำเภอเมืองสรวง
วัดท่าสว่าง  บ้านหนองผือ – โนนค้อ  ตำบลหนองผือ 
อำเภอเมืองสรวง  จังหวัดร้อยเอ็ด
โทร. ๐๘๗-๒๑๕๔๑๔๑ E-mail : Nupon2511@gmail.com