อานิสงส์ปลูกต้นโพธิ์
มีใจความว่าพระปุตถินทายกัตเถระรูปนี้ได้บวชในศาสนาของพระสมณโคดมบรมศาสดาของเราท่านได้บำเพ็ญเพียรเรียนวิปัสสนาจนสำเร็จพระอรหันต์ประกอบด้วยอภิญญา
๖เชี่ยวชาญนัก เมื่อพระผู้เป็นเจ้าได้บรรลุพระอรหันต์แล้ว
วันหนึ่งนั่งอยู่ในที่สงัด พระเถระเจ้าได้ระลึกถึงปุพพกรรมที่ทำให้ได้บรรลุถึงอรหัตตผล
เพราะเหตุกุศลผลบุญอะไรที่ตนได้กระทำไว้ในชาติปางก่อน
จึงได้เสวยวิมุตติสุขถึงเพียงนี้พระเถระเจ้าก็ทราบชัดโดยทิพจักขุญาณ
แต่เมื่อมีความประสงค์จะ แสดงถึงผลบุญจะได้เป็นประโยชน์แก่พุทธบริษัทต่อไปในภาคหน้า
จึงได้ลุกจากอาสนะไปสู่ที่บริษัททั้ง ๔ แล้วกล่าวว่า วิปสฺสิสฺส ภควโต
ดังนี้เป็นอาทิความว่า ดูกรพุทธบริษัททั้งหลายเมื่อครั้งศาสนาพระวิปัสสีสัมมาสัมพุทธเจ้า
อาตมาได้กำเนิดเกิดเป็นบุรุษผู้หนึ่งมีจิตเลื่อมใสในพระศาสนาวันหนึ่งอาตมาได้ออกจากบ้านไปสู่อาราม
ได้ทัศนาเห็นต้นไม้ศรีมหาโพธิ์เศร้าหมอง รกปกคลุมไปด้วยหญ้าและใบไม้
จึงได้ชำระถากถางหญ้า และปัดกวาดใบไม้ให้สะอาด แล้วขนทรายมาเกลี่ยทำให้เสมอ ทำเป็นแท่นที่ใต้ต้นศรีมหาโพธิ์นั้น
แล้วตบแต่งประดับประดาด้วยดอกไม้ของหอม ดูแล้วเป็นที่รื่นรมย์เมื่อกระทำแล้วมีความปีติยินดียิ่งนัก
ครั้นเมื่อถึงมรณะสมัยใกล้จะทำกาลกิริยาตายจิตก็ระลึกถึงกุศลที่ตนได้ทำการปัดกวาด
ชำระ และก่อแท่นที่ต้นศรีมหาโพธิ์ ครั้นตายแล้วก็ไปอุบัติในชั้นดุสิตเสวยทิพยมานทอง
มีหมู่นางเทพอัปสรแวดล้อมเป็นบริวาร ครั้นจุติจากเทวโลกได้มาถือกำเนิดในมนุษย์โลกเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราช
ได้ท่องเที่ยวอยู่ในสังสารวัฏฏ์มาจนถึงศาสนาแห่งพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า
อาตมาได้เกิดในตระกูลเศรษฐี ครั้นเจริญวัยขึ้นก็ออกบวชในพระพุทธศาสนา
เจริญวิปัสสนาไม่นานนักก็ได้บรรลุพระอรหันต์
ก็เพราะบุญกุศลที่ได้ปลูกต้นไม้ศรีมหาโพธิ์นี้ก่อพระแท่นนั้น เป็นปฐมเหตุดังนี้เป็นต้น
เมื่อจบพระธรรมเทศนาลงแล้ว พุทธบริษัททั้งหลาย ก็มีความยินดีในธรรมภาษิตที่พระเถระเจ้าแสดงเป็นยิ่งนัก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น