จารุวณฺโณภิกฺขุ

จารุวณฺโณภิกฺขุ
สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2554

วิสาขบูชาคำกลอนสอนใจ


                       วันวิสาขบูชา
จันทร์เพ็ญส่องสดใสในเดือนหก       สากลยกถือตามสามสถาน
วันประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน                      พุทธกาลล่วงได้หลายปีมา
ลุมพินีสถานที่สุดประเสริฐ               ที่กำเนิดไตรโลกนาถา
รุมมินเดย์เนปาลเนิ่นนานมา                   พระนามว่า สิทธัตถะ พระกุมาร
 เนรัญชรา มหานทีที่ริมฝั่ง           โพธิ์บัลลัลก์ทรงตั้งจิตอธิษฐาน
ตรัสรู้ เป็นพุทโธโพธิญาณ                   พิชิตมารเดือนหกดิถีเพ็ญ
พุทธองค์ทรงหยั่งรู้ อริยสัจ       ทุกข์กำจัดปัญญาส่องทางมองเห็น
สมุทัยนิโรธมรรคสงบเย็น                          ดวงตาเห็นในธรรมเป็นสัมมา
สากลโลกถือสำคัญในวันนี้               เป็นวันที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกทิศา
เว้นจากบาปกราบพุทธบูชา                         นกเต่าปลาปล่อยไปให้เป็นทาน
องค์พุทโธเสด็จอุบัติแล้ว                  ดั่งดวงแก้วส่องไปในสงสาร
โปรดเวไนย์ให้อยู่ดีมีศีลทาน                      ธรรมทานทรงวางทางสายกลาง
ทรงเปรียบคนดีชั่วบัวสี่เหล่า             ให้ขัดเกลาชำระจิตสะสาง
ทำกิเลสจากใจให้เบาวาง                            ตามหนทางหยั่งรู้สู่นิพพาน
ไตรโลกสิ้นบรมครูผู้ยิ่งใหญ่             ไสยาสน์ใต้ต้นรังปลงสังขาร
พระชันษาแปดสิบชนมวาร                        พระนิพพานดับขันธ์นิรันดร
พระองค์ตรัสสั่งซ้ำคำสุดท้าย            ทรงเตือนใจให้ฟังคำสั่งสอน
อย่าประมาท  ทำใจให้สังวร                     พระองค์สอนก่อนเสด็จสู่นิพพาน
เราชาวพุทธหยุดกรรมเว้นทำชั่ว        ไม่เมามัวอบายมุขทุกสถาน
สะอาดกายใจรับศีลสมาทาน                       บำเพ็ญฌานสมาธิภาวนา
เช้าทำบุญน้อมใจแล้วใส่บาตร           บำรุงศาสน์หยาดน้ำอุทิศหา
พระสงฆ์ท่านภิญโญโมทนา                       ญาติการับผ่านทานมัย
ค่ำที่วัดเวียนเทียนเพียรสามรอบ        สนองตอบพุทธคุณอุ่นอาศัย
ธัมมจักรฯ ศักดิ์สิทธิ์พิชิตภัย                บันดาลให้อยู่สุขทุกคืนวัน ฯ
              พุทธศาสนสุภาษิต
การเรียนรู้ในพุทธสุภาษิต              สุจริตน้อมนำธรรมวิสัย
ปฏิบัติด้วยกายวาจาใจ                             ยังผลให้สุขกายสบายองค์
สุขา -  ย่อมร่มเย็นเป็นสัจจะ           สงฺฆสฺส รวมอยู่เป็นหมู่สงฆ์
สามคฺคี -  มีธรรมย่อมดำรง                      พุทธองค์ตรัสไว้ให้ทำตาม

          สามัคคีดีเลิศเกิดตรงไหน               เธอจำไว้เกิดตรงที่องค์สาม
เกิดแต่ใจ วาจา และกายตาม                      จึงงดงามเนืองนิตย์โปรดคิดเอา
          คนจะดีดีที่ใจใช่ใบหน้า                 ไม่อิจฉาขุ่นข้องปองร้ายเขา
เห็นส่วนรวมก่อนกว่าของตัวเรา               ใจไม่เอาเปรียบใครในสังคม
          ไม่โลภโมโทสันคิดปั้นแต่ง            ให้กินแหนงแคลงใจใครขื่นขม
ใครทำดีมีใจไว้ชื่นชม                              คอยอบรมใจตนเป็นคนดี
          สองพูดดีมีวาจาสุภาษิต                  สุจริตน่ารักมีศักดิ์ศรี
มีสัจจะพูดนำคำสุนทรี                             เป็นผู้ที่คนเลื่อมใสในวาจา
          พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้สาระ          ผรุสะเงื่อนงำคำมุสา
พูดยุแยงแสลงใจในหูตา                          ผิดจรรยาคนดีศรีสังคม
          สามเรื่องกายถวายตนเสียสละ        ให้พละกิจเฉพาะตามเหมาะสม
พัฒนาร่วมด้วยช่วยติ ชม                       เพื่ออุดมสมใจในเนื้องาน
          ไม่เกะกะระรานพาลคนอื่น            ไม่แข็งขืนศีลธรรมกำลังหาญ
ไม่อวดเก่งเป็นนักเลงอันธพาล                 สมัครสมานรู้รักสามัคคี
          กายวจีใจดีเป็นศรีศักดิ์                   มีคนรักถือว่าเป็นราศี
เห็นประโยชน์ส่วนรวมเป็นความดี        ไม่หลีกหนีเอาแต่การงานของตน       
รักษากาย วาจา ใจ ให้ดีพร้อม        ความสุขย่อมเป็นไปให้เกิดผล
งานสำเร็จลงได้ในบัดดล                       ขอทุกคนสามัคคีมีวินัย
          สามัคคีมีนัยแผ่ไปทั่ว                   ทั้งครอบครัวแดนดินถิ่นอาศัย
รวมทั้งชาติศาสน์ กษัตริย์ รัฐชัย             สุขยิ่งใหญ่ไทยรู้รักสามัคคี
              ..................................................................................
            ไตรสิกขาคำสอน
ชาวพุทธเราเรียนรู้ปฏิบัติ                  ได้ฝึกหัดมั่นในไตรสิกขา
อบรมศีลสมาธิและปัญญา                          เป็นบุญญาสืบอายุพุทธธรรม
หนึ่ง  คือ ศีล เป็นฐานคอยรองรับ    เครื่องกำกับชีพให้ไม่ถลำ
เป็นข้อห้ามงดเว้นเวรบาปกรรม                   เจริญธรรมสมาธิภาวนา
สอง สมาธิสติตั้งสงบอยู่              กำหนดรู้ลมหายใจในนาสา
จิตแน่วนิ่งสู่ภวังค์นั่งหลับตา                       ภาวนาพุทโธทุกครั้งไป
สาม ปัญญา คือสิกขาขั้นสูงสุด      ศีลวิสุทธิ์ฐานรองให้ผ่องใส
สมาธิเจนจบสงบใจ                                  เป็นเหตุให้ล้ำเลิศเกิดปัญญา
ศีลทำคนให้เป็นปกติ                       บุญนิธิศีลมัยให้รักษา
ฆราวาสญาติโยมธรรมดา                         ถือศีลห้ารักษามั่นทุกวันไป
อีกศีลแปดหรือศีลอุโบสถ               ครบกำหนดแห่งจันทร์วันพระไหน
อุบาสกอุบาสิกาพากันไป                          ด้วยตั้งใจจำศีลอยู่วัดวา
                ศีลสิบข้อสามเณรปฏิบัติ                 บทบัญญัติงดงามตามสิกขา
ให้สำรวมจิตใจกายวาจา                           เชื่อครูบาดูแลวัดพัฒนา
                พระถือศีลสองร้อยยี่สิบเจ็ด             ผู้สำเร็จนำพิธีศาสนา
ศึกษารู้ในธรรมองค์สัมมา                          เทศนาปฏิบัติมีวัตรตรง
                ไตรสิกขา คือทางแห่งชีวิต          เป็นนิมิตหลักชัยไม่ลืมหลง
หลักแห่งศีลสมาธิธรรมสืบดำรง                ปัญญาคงเกิดแจ้งแจ่มมรรคา
                บัณฑิตน้อยค่อยคิดพินิจเถิด             ปัญญาเกิดเพราะอะไรใคร่ครวญหา
เป็นเพราะศีลสมาธิภาวนา                          รับรองว่านำไปใช้ได้ผลจริง
                ปรับความคิดเข้าใจเสียใหม่เจ้า         จดจำเอาว่าง่ายทั้งชายหญิง
จงตั้งใจน้อมนำมาทำจริง                           ทุกทุกสิ่งดีพร้อมย่อมเจริญ
ปรับเปลี่ยนตนฝึกใจให้ดีแล้ว           เป็นแบบแนวทางเราเขาสรรเสริญ
ประโยชน์ตนประโยชน์ท่านงานดำเนิน      ผลประเมินชีวีสุขีเอย   

                     ทำจิตใจให้บริสุทธิ์
            (บริหารจิตและเจริญปัญญา)
              จิตเป็นนายกายเป็นบ่าวชาวโลกรู้     สัพพัญญูทรงแจ้งแห่งความหมาย
ทั้งอุบายฝึกใจได้แยบคาย                              ทรงขยายเวไนย์ให้ทำตาม
              ควรอาบน้ำชำระกายให้สะอาด        ตามโอกาสน้อมใจในองค์สาม 
สวมเสื้อผ้าท่วงท่าสง่างาม                             จุดเทียนตามธูปหอมล้อมพิธี
              นั่งสำรวมกายใจกราบไหว้พระ        เบญจางคฯแด่พระชินสีห์
ทั้งพระธรรม พระสงฆ์ผู้ปูชนีย์                      ใจยินดีในพระธรรมองค์สัมมา
           ขวาทับซ้ายในท่าขัดสมาธิ                  กายองอาจยืดตรงมั่นคงหนา
ทุกสิ่งอย่างเรียบร้อยค่อยหลับตา                    ภาวนาเฝ้าอยู่ดูลมปราณ
          หายใจเข้าภาวนาคำว่า พุทธ              ถึงที่สุดตรงสะดือนั่นคือฐาน
หายใจออกผ่อนลมไว้ให้ยาวนาน                    สติขานภาวนาคำว่า โธ
          ใจสงบสว่างเย็นเป็นดวงหนึ่ง               สติขึงรู้เห็นเป็นนาโถ
สุขเบาว่างบริกรรมคำ พุทโธ                      โยนิโสมนสิการคุณ
          เมื่อทุกสิ่งกายนิ่งจิตสงบ                       เราจักพบปัญญามาเกื้อหนุน
ทั้งเหตุผลสัมพันธ์อนันต์คุณ                          เป็นกองทุนคณานับขุมทรัพย์ทอง
          บริหารจิตมีสมาธิ                                 เพราะสติกำกับรับสนอง
ปัญญาเกิดเลิศล้ำตามทำนอง                            จิตใสผ่องบริสุทธิ์บริบูรณ์
          ปัญญาเกิดเพราะฟังตั้งใจต่อ                   จิตนิ่งพอคิดได้ใจกลางศูนย์
ภาวนาหาเหตุผลจนเพิ่มพูน                              บริบูรณ์เจริญดีมีปัญญา
          สุ. ฟังไว้หัวใจแห่งนักปราชญ์                 จิ. คิดคาดตามบาทพระคาถา
ปุ. ให้ถามความนัยสงสัยมา                              ลิ. ท่านว่าให้เขียนเพียรจดการ
          ฝึกตนเองฝึกใจให้สติ                              สมาธิจดจ่อบริหาร
เข้า ออกรู้กำหนดไว้ในดวงมาลย์                    ถึงลมปราณฌาญเลิศเกิดปัญญา
          กิจกรรมเช่นนี้วิถีพุทธ                             ล้ำเลิศสุดในหมู่มนุสสา
ทำเพื่อชาติเทิดทูนศาสน์กษัตรา                         เป็นสัมมาบูชาคุณความดี
                              …………………………………….
ศรัทธา 
ศรัทธาคือความเชื่อของมนุษย์        ดี ชั่ว  สุดแท้แต่มีเหตุผล
ถ้ากรรมดีเพียงพอ   ก็เป็นคน                  ถ้าสับสนกรรมชั่ว    ตัวอะไร?
พุทธองค์ตรังไว้ในเรื่องนี้                  ศรัทธาสี่ทรงแสดงแจ้งข้อไข
ให้ความรู้สาธุชนผู้สนใจ                          น้อมนำไปปฏิบัติตามศรัทธา
        หนึ่ง กัมมสัทธาเรื่องน่ารู้               กรรมมีอยู่ทุกคนไม่พ้นหนา
ทำอะไรจากเหตุเจตนา                             เชื่อได้ว่ามีผลสนองจริง
สอง วิปากสัทธามีผลตอบ               จักทำชอบชั่วร้ายทั้งชายหญิง
ผลของกรรมนำส่งกระทำจริง                      พบกับสิ่งผลกรรม   ตนทำไป
        สาม กัมมัสกตาสัทธา                           ความหมายว่าตนทำกรรมที่ไหน
ย่อมไม่อาจจัดแจงแบ่งให้ใคร                     ผลน้อยใหญ่รับไปเป็นของตน
สี่ ตถาคตโพธิสัทธา                             ภควาตรัสรู้ธรรมนำมรรคผล
เป็นสัมมาสัมพุทธทศพล                            ทรงหลุดพ้นสอนคนรู้และทำตาม
เรื่องของกรรมย่อมจำแนกแห่งหมู่สัตว์    ให้อุบัติเวียนว่ายในโลกสาม
คือนรกโลกมนุษย์สวรรค์งาม                     เป็นไปตามบุญกรรมชักนำไป
โชคดีแล้วเราเกิดมาอย่าเสียชาติ            ไม่ประมาททำดีตามวิสัย
ถึงลำบากยากจนทนสู้ไป                          กรรมเก่าใหม่ผลได้ไม่ช้านาน
ไม่สร้างเวรสร้างกรรมกระทำชั่ว            ผลกรรมตัวตอบกลับมามหาศาล
อันบาปบุญคุณโทษนี้มีมานาน                     คำโบราณขานไขให้เชื่อฟัง
บัณฑิตน้อยสำนึกดีปฏิบัติ                  ให้เป็นวัตรฝึกตนมีมนต์ขลัง
เว้นกรรมชั่วดีเพิ่มเติมพลัง                        ตามคำสั่งของครูผู้อบรม
อย่างมงายหลงเชื่อขาดสติ                  ถือทิฎฐิผิดไปไม่เหมาะสม
คิดเหตุผลสิ่งอื่นให้กลืนกลม                      คนเขาชมเลื่อมใสในปัญญา
อัน สัทธา  เขียนเรื่องไว้เพียงนี้          คิดถ้วนถี่จดจำนำศึกษา
อันบาปบุญผลกรรมนำสัตตา                     สู่มรรคาสองแพร่งแห่งแห่งชั่วดี