จารุวณฺโณภิกฺขุ

จารุวณฺโณภิกฺขุ
สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วันพุธที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

คำกลอนงานศพ

“คำกลอนงานศพ”

อนุสาวรีย์ศรีสถาน
แห่งชายไม่ประจักษ์ศักดิ์ศฤงคาร
แม้สกุลคุณสารต่ำปานไร
ขอจงอย่าขึ้งเครียดรังเกียจเขา
ขอจงเคารพงามตามวิสัย
มัจจุราชรับพาเขาคลาไคล
ทิ้งร่างไว้ทวงเคารพผู้พบ เอย.
“น้ำเอ๋ยน้ำใจ”
ซึ่งเนาในร่างกายผู้ตายนี้
ล้วนสุภาพผ่องใสด้วยไมตรี
อีกโอบอ้อมอารีมีในคน
คุณนี้นำชำร่วยอวยสนอง
บำเหน็จมองมูนมากวิบากผล
คือห่วงใยยั่วหยัดอัสสุชล
จากฝูงคนผู้ใฝ่อาลัย เอย.
“แต่เอ๋ยแต่นี้”
เป็นหมดที่ใฝ่จิตริษยา
เป็นหมดที่อุปถัมภ์คิดนำพา
เป็นนับว่า "อโหสิกรรม" กัน
เขาจะมีดีชั่วติดตัวไป
เป็นวิสัยกรรมแต่งและแสร้งสรร
เรารู้ได้แต่ปวัตน์ปัจจุบัน
ซึ่งทิ้งอยู่คู่กันกับนาม เอย.
“ระลึกพระคุณแม่ผู้วายชนม์”
อันพระคุณของแม่นี้มีใดเปรียบ เอาฟ้าเทียบมหาสมุทรสุดไพศาล
มิอาจกล่าวได้หมดสุดประมาณ ทั่วโลกขานแม่เป็นเช่นพระพรหม
แม่คือผู้ให้กำเนิดบังเกิดบุตร มอบความรักบริสุทธิ์วิเศษสม
โอ้แม่จ๋าลูกซึ้งค่าน้ำนม เลือดในอกแม่ผสมกลั่นออกมา
เลี้ยงดูลูกจนเติบโตถึงวันนี้ ลูกได้ดีเพราะแม่ไม่หนีหน้า
รักของแม่ลูกซาบซึ้งยังตรึงตรา พระคุณแม่ขอบูชาไว้ในกมล
สองมือก้มกราบแนบแทบเท้าแม่ จิตแน่วแน่อุทิศทุนบุญกุศล
มอบแด่แม่สุดที่รักผู้วายชนม์ เกิดกี่หนขอเป็นลูกแม่ทุกชาติไป
ขอให้ดวงวิญญาณแม่มีแต่สุข พ้นบ่วงทุกข์พบกับวันอันสดใส
ล่องลอยสู่สวงสวรรค์ครรลาไลย หมดห่วงใยด้วยผลบุญหนุนนำเทอญ
“ระลึกพระคุณพ่อผู้วายชนม์”
พ่อคือผู้ให้กำเนิดเกิดชีวิต พ่ออุทิศสั่งสอนลูกผูกนิสัย
พ่อชี้นำแนวทางไม่ห่างไกล พ่อห่วงใยรักลูกทุกเวลา
เพียงเพื่อลูกได้มีชีวีรอด พ่อโอบกอดอดกลั้นสู้ปัญหา
เพียงลูกรักบังเกิดเลิศปัญญา พ่ออุตส่าห์ฝ่าฟันไม่หวั่นใด
กำลังใจจากใคร ๆไม่เท่าพ่อ เรี่ยวแรงหมดทดท้อพ่อเติมให้
รักจากพ่อก่อด้วยแสงของแรงใจ รักของพ่อช่วยป้องภัยไม่แผ้วพาน
พระคุณของพ่อนี้มีใดเปรียบ เกินฟ้าเทียบเทียมสมุทรสุดไพศาล
พระคุณพ่อลูกซาบซึ้งตรึงดวงมาลย์ ขอพบพานเป็นลูกพ่อทุกชาติไป
พนมมือกราบแนบแทบเท้าพ่อ ลูกจักขออโหสิกรรมทำบุญให้
ขอให้ดวงวิญญาณพ่อสถิตสวรรค์อันอำไพ หมดห่วงใยด้วยผลบุญหนุนนำเทอญ
“มอบแด่พ่อผู้วายชนม์”
พระคุณพ่อผู้ก่อเกิดกำเนิดลูก เฝ้าพันผูกปลูกฝังคำสั่งสอน
คอยถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงอาทร ดับทุกข์ร้อนให้ร่มเย็นเป็นสุขใจ
ลูกไม่มีสิ่งใดอาจแทนทด พระคุณพ่อให้หมดจบสิ้นได้
ขอตั้งจิตอธิษฐานเกิดภพใด ตามรับใช้เป็นลูกพ่อทุกชาติไป
พนมมือกราบแนบแทบเท้าพ่อ ลูกจักขออโหสิกรรมทำบุญให้
ขอให้ดวงวิญญาณพ่อสถิตสวรรค์อันอำไพ สิ้นห่วงใยสุขสงบในสมปรายภพเทอญ
ขอกราบเท้าของแม่ที่แน่นิ่ง
หัวใจลูกดำดิ่งจากยอดผา
กุมมือแม่แนบไว้ในอุรา
ธารน้ำตาหลั่งรินแทบสิ้นใจ

ขอกอดแม่เอาไว้ในโอกาส
แม้ไมอาจรับรู้ลูกอยู่ใกล้
ระลึกถึงคุณมารดาผู้ลาไกล
คือพระในใจลูกอยู่ทุกคราว

มือคู่นี้ที่เลี้ยงดูให้อยู่รอด
เคยสวมกอดลูกไว้เมื่อไข้หนาว
ตักนี้เคยหนุนหลับเมื่อนับดาว
ทั้งสองเท้านำลูกไปให้เป็นคน

ภาพที่แม่จะสิ้นลงอยู่ตรงหน้า
ปราถนาจะยุดรั้งยังสับสน
จะให้แม่ไปสบายหรือทุกข์ทน
เสียงทุกคนรอบข้างต่างระบาย

วันที่แม่เต็มใจให้กำเนิด
แสนประเสริฐลูกได้เกิดอย่างเฉิดฉาย
แต่วันนี้ต้องเซ็นยอมให้แม่ตาย
ลูกใจร้ายหรือเปล่ายังเฝ้าตรม

คิดถึงความตามหลังครั้งวันเก่า
เมื่อวัยเยาว์ยิ่งทำให้ใจขื่นขม
สิ่งที่แม่มอบให้ล้วนชวนชื่นชม
ลูกระทมทดแทนแม่แต่น้อยไป

แม่เคยหวีผมให้ก่อนไปส่ง
เสื้อก็รีดจีบคงให้ตรงไว้
พาไปเรียนเขียนอ่านขับขานไป
หน้าหนาวได้ใส่เสื้อหนาล้วนผ้านวม

ส่วนลูกหวีผมให้ใจจะขาด
เสื้อสะอาดซื้อใหม่ให้แม่สวม
กลัวว่าแม่จะหนาวลมห่มผ้านวม
น้ำตาท่วมท้นมาเป็นอาจิณ

แม่เหนื่อยมามากมายจนกายล้า
ลูกสัญญาไม่ทำให้ต้องถวิล
จะไม่ร้องฟูมฟายให้ได้ยิน
น้ำตารินรดมือแม่แค่เบาเบา

ถึงจะกลั้นเสียงร้องยังก้องอยู่
ด้วยรับรู้แม่จากไปใจลูกเฉา
ทุกสัมผัสจะห่างเหินเกินบรรเทา
เหลือแต่เงาในรูปถ่ายไว้ให้ดู

วันที่ลูกนอนเปลไกวในผ้าอ้อม
เสียงเพลงกล่อมที่แม่ร้องยังก้องหู
ปลาตะเพียนแขวนไว้ให้ลูกดู
ลูกหลับอยู่กลัวยุงกัดยังพัดวี

แต่คืนนี้แม่ต้องนอนในเปลไม้
เสียงสวดมนต์กล่อมใจให้แม่นี้
พร้อมพวงหรีดแขวนไว้ด้วยไมตรี
ของผู้ที่มาเคารพอย่าครบครัน

ขอพระพุทธนำท่านไปในธรรมะ
ขอพรพระส่งท่านไปถึงสวรรค์
ขอพรเทพทุกพระองค์ทรงสุบรรณ
รับแม่ฉันไว้สวมกอดตลอดไป

ครั้งที่ลูกเดินทางไกลยังไม่กลับ
แม่ไม่หลับนับเวลามาตอนไหน
เตรียมข้าวปลารออยู่แม่รู้ใจ
ลูกหลับได้แม่จึงกลับเข้าหลับนอน

แม่อย่าห่วงกังวลลูกคนนี้
ทุกวลีลูกจะจำที่พร่ำสอน
ขอให้แม่หลับตาแม้อาทร
แล้วพักผ่อนนอนเถิดหนาอย่าจาบัลย์

ครั้งนี้แม่เดินทางไกลอยากไปส่ง
ให้แม่ตรงขึ้นสู่สรวงสวรรค์
แต่ไม่นานลูกจะตามไปพบพาน
กราบแทบเท้าของท่านบนดาวดึงส์

ลืมมือแม่เคยอุ้มแอบลูกแนบอก
เคยกอดกกเกลียวกลมเอานมป้อน
ลืมเสียงแม่เคยกล่อมขับให้หลับนอน
ยามลูกอ้อนใส่เปลแม่เห่ไกว
ลืมเสียงเพลงเก่าแก่ของแม่สิ้น
นกขมิ้นเหลืองอ่อนจักนอนไหน
ลืมสายเปลสายสวาทขาดเยื่อใย
เหมือนสายใจแม่ให้ลูกแต่ถูกลืม

อันลูกแก้วหัวแหวนแสนดีนัก
พ่อแม่รักปลื้มใจยิ่งหนักหนา
ไม่เสียแรงที่อุตส่าห์เลี้ยงลูกมา
ลูกแก้วตาเชื่อพ่อแม่ทำแต่ดี
ลูกทรพีดีแต่ทำความชั่ว
เพราะว่าตัวใจต่ำทรามสถุล
ทำเรื่องเลวเสื่อมเสียวงศ์ตระกูล
ก่อเรื่องวุ่นให้พ่อแม่ต่อๆ ไป

ดวงใจแม่สะอาดแท้กว่าทุกสิ่ง
ดวงใจแม่สะอาดยิ่งกว่าสิ่งไหน
ดวงใจแม่สะอาดเกินกว่าสิ่งใด
ดวงใจแม่มีไว้เพื่อลูกเอย

ขอกราบไหว้บูชาพระคุณแม่
คุณเลิศแท้หาสิ่งใดไหนจักเหมือน
ยามลูกผิดคุณแม่นั้นคอยเฝ้าเตือน
ยามแชเชือนคุณแม่เราเฝ้าปลอบใจ
ยามลูกทุกข์แม่พลอยทุกข์เหมือนกับลูก
จิตแม่ผูกอยู่กับลูกไม่เหือดหาย
แม้นชีวิตของลูกนั้นพลันมลาย
จนวันตายจะไม่ขอลืมพระคุณ
บุญอันใดลูกสร้างมาแต่ปางก่อน
จงสะท้อนถึงพ่อแม่ผู้เกื้อหนุน
เฝ้ากล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมาด้วยการุณย์
โอ้พระคุณแสนล้ำเลิศประเสริฐเอย

วิญญาณแม่อยู่ที่ใดในใต้หล้า
สุดขอบฟ้าสิ่งสถิตอยู่ทิศไหน
ขอให้แม่มีสุขพ้นทุกข์ภัย
สู่สวรรค์ครรลัยสบายอุรา
เกิดชาติหน้าฉันใดดั่งใจหมาย
ขอให้ได้พบกันดั่งฝันหา
เป็นแม่ลูกกันอีกดั่งเจตนา
จงอย่ามาด่วนจากพรากกันเลย
ในชาตินี้ลูกผิดพลาดไปแล้ว
โอ้แม่แก้วลูกอันธพาลมากจริงเอ๋ย
ยังมิได้ตอบแทนคุณของแม่เลย
ชะตาเอ๋ยชีวิตอนิจจัง
ขอให้แม่สุขสมอารมณ์หมาย
ขออย่าได้มีทุกข์ผิดพลาดหวัง
เกิดชาติไหนให้ลูกเดินตามทาง
จิตสว่างตามแม่บอกนั้นเถิดเอย

แม่จ๋าแม่มาลาลับดับสูญสิ้นบุญแม่ไป
ลูกสุดอาลัยจนเหลือรำพัน
แม่จากไปแล้วจากไปจนชั่วนิรันดร์
ขอให้ดวงวิญญาณแม่นั้นสู่ดาวดึงส์
แม่เหนื่อยเมื่อยล้ามาทั้งชีวิต
คิดถึงคุณแม่ลำบากยากแท้แม่ไม่คำนึง
สิ้นบุญแม่แล้วเหมือนดังโพธิ์แก้วล้มตึง
ลูกขาดที่พึ่งเสมือนดังเรือขาดพาย
หลับเถิดหนาแม่จ๋าหลับให้เป็นสุข
ไม่ต้องห่วงลูกแม่จงหลับให้สบาย
ลำบากมาพอแล้วหนอตั้งแต่พ่อตาย
เลี้ยงลูกทั้งหญิงและชายเติบโตมาจนบัดนี้
สิบนิ้วลูกขอพนมก้มกราบ
ปวงเทพเทวาจงช่วยนำพาแม่สู่สุขาวดี
ขออธิษฐานถ้าแม้นว่าชาติหน้ามี
กี่หมื่นกี่แสนล้านปีเกิดอีกทีขอเป็นลูกแม่

งานวันเกิดยิ่งใหญ่ใครคนนั้น
ฉลองกันในกลุ่มผู้ลุ่มหลง
หลงลาภยศสรรเสริญเพลินทะนง
วันเกิดส่งชีพสั้นเร่งวันตาย

อีกมุมหนึ่งซึ่งเหงาน่าเศร้าแท้
หญิงแก่ๆ นั่งหงอยและคอยหาย
โอ้วันนั้นเป็นวันอันตราย
แม่คลอดสายโลหิตแทบปลิดชนม์

วันเกิดลูกเกือบคล้ายวันตายแม่
เจ็บท้องแท้เท่าไหร่ก็ไม่บ่น
กว่าอุ้มท้องกว่าจะคลอดรอดเป็นคน
เติบโตจนบัดนี้นี่เพราะใคร

แม่เจ็บเจียนขาดใจในวันนั้น
กลับเป็นวันลูกฉลองกันผ่องใส
ได้ชีวิตแล้วก็หลงระเริงใจ
ลืมผู้ให้ชีวิตอนิจจา

ไฉนจึงเรียกกันว่าวันเกิด
วันผู้ให้กำเนิดจะถูกกว่า
คำอวยพรที่เขียนควรเปลี่ยนมา
ให้มารดาเราเป็นสุขจึงถูกแท้

เลิกจัดงานวันเกิดกันเถิดนะ
ควรที่จะคุกเข่ากราบเท้าแม่
ระลึกถึงพระคุณอบอุ่นแด
อย่ามัวแต่จัดงานประจานตัว

อันพระคุณใครๆ ในพิภพ
ยังรู้จบแจ้งคำมาพร่ำขาน
แม่และพ่อคุณต่อบุตรสุดประมาณ
ขอกราบกรานระลึกถึงซึ้งพระคุณ

เจ้าข้าเอ๋ยใครหนอใครให้กำเนิด
จึงก่อเกิดเติบใหญ่ด้วยไออุ่น
ทั้งกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงลูกมาด้วยการุณย์
ช่วยค้ำจุนจนรอดพ้นเป็นคนมา

ถึงลำบากร่างกายใจห่วงลูก
จิตพันผูกดวงใจให้ห่วงหา
หัวอกใครจะอุ่นเท่าอีกเล่านา
คอยปลอบเช็ดน้ำตาคราระทม

เป็นแดนใจใสสะอาดปราศกิเลส
เป็นสรรเพชรของบุตรพิสุทธิ์สม
ความรักเปี่ยมด้วยเมตตาน่านิยม
ประดุจลมโชยเย็นให้เย็นดี

หอบสังขารทำงานเลี้ยงลูกน้อย
เกรงจะด้อยใจทรามต่ำศักดิ์ศรี
จึงส่งให้ได้ศึกษาวิชาดี
ให้ได้ดีกว่าแม่พ่อที่รอคอย

เหมือนนกกาหาเหยื่อมาเผื่อลูก
เปรอความสุขหาทรัพย์ไว้ให้ใช้สอย
ยามไกลพรากจากอุราตั้งตาคอย
ใจละห้อยนอนสะอื้นขื่นขมทรวง

กว่าลูกๆ จะสำนึกพระคุณท่าน
ช่างเนิ่นนานบ้างชีวาลาลับล่วง
บ้างก็ป่วยจนแทบสิ้นแดดวง
ลูกจึงห่วงเอาใจใส่ในกายา

อย่าให้รอใกล้ตายจึงกรายใกล้
เป็นศพไปจึงรู้บุญคุณท่านหนา
ยามท่านอยู่ควรรู้ชัดสร้างศรัทธา
ตอบแทนคุณมารดาบิดาเอย

แม่.....เป็นครูผู้สอนแต่ตอนต้น
แม่.....ทุกคนอุดมพรหมวิหาร
แม่.....เมตตากรุณามุทิตาการ
แม่.....มีญาณอุเบกขาเป็นอารมณ์
แม่.....เหมือนพระอรหันต์อันสูงสุด
แม่.....หวังบุตรธิดาอย่าขื่นขม
แม่.....กับลูกผูกมิตรจิตชื่นชม
แม่.....จึงสมภาษิตมิตรในเรือน

เพียงตั้งครรภ์ยังไม่ทันเห็นหน้าเจ้า
ในจิตเฝ้าผูกพันรักมั่นหนอ
เป็นเลือดก้อนในอุทรท่านพะนอ
สายเลือดหล่อเลี้ยงปลื้มลูกดื่มกิน

มนุษย์เรามากมายหลายพันล้าน
ที่แผ่ซ่านในพิภพจนจบสิ้น
ผ่านบัณฑิตรวยจนบนแผ่นดิน
ทุกคนสิ้นสืบกำเนิดเกิดจากครรภ์

สตรีใดให้กำเนิดเกิดมนุษย์
โลกสมมุตินามนิยมไว้คมสันต์
เรียกว่าแม่มาแต่แรกที่แบกครรภ์
เพราะแม่นั้นครอบครองป้องโลกไว้

ถึงยากจนก็อดทนเพราะรักลูก
จิตพันผูกรักยิ่งเกินสิ่งไหน
ยามคลอดบุตรสุดสวาทแทบขาดใจ
คลอดพ้นภัยเห็นหน้าเจ้าเฝ้าปรีดา

เมื่อยามลูกอยู่ในครรภ์พรั่นใจนัก
กลัวลูกรักจะเป็นทุกข์ไม่สุขา
จะลุกนั่งเวียนระวังกินข้าวปลา
คอยรักษาของเผ็ดร้อนก็ผ่อนคลาย

พร่ำสวดมนต์ภาวนาฟ้าพิทักษ์
ให้ลูกรักเลิศล้นคนทั้งหลาย
แม้นเป็นชายก็ประเสริฐเลิศเกินชาย
เป็นหญิงหมายยอดหญิงยิ่งกว่าใคร

เมื่อลูกคลอดจากครรภ์แม่หรรษา
มีเมตตายิ่งนักสุดรักใคร่
พะนอเลี้ยงเพียงแก้วตายอดยาใจ
ทั้งมดไรยุงริ้นมิไต่ตอม

เฝ้าฟูมฟักรักเลี้ยงเพียงชีวิต
แม่ตั้งจิตโลมเร้าเฝ้าถนอม
ลูกหลายคนแม่ก็ทนเฝ้าอดออม
คอยถนอมขวัญลูกผูกดวงมาลย์

น้ำใจแม่เกื้อกูลการุณย์บุตร
บริสุทธิ์สูงส่งพรหมวิหาร
เป็นแม่พระป้องกันภัยอันธพาล
คุณโอฬารใครไม่เกินกว่ามารดา

จะเทียบท่าทบเท่าคุณแม่นี้
ปฐพีท้องทะเลกว้างเวหา
ทั่วเขตคามสามภพจบโลกา
คุณมารดามากนักเพราะรักแรง

อันรักใดไหนอื่นมีหมื่นแสน
ไม่เหมือนแม้นแม่รักสมัครหมาย
รักของแม่คงมั่นตราบวันตาย
หญิงหรือชายรักเจ้าเท่าดวงมาลย์
ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่กรองกลั่น
เลือดแม่นั้นเลี้ยงหล่อก่อสังขาร
กว่าจะเป็นตัวตนต้องทนทาน
ครั้นถึงกาลคลอดเจ้าร้าวระบม
แม่เจ็บปวดเวียนว่ายชีวาสิ้น
หรือถวิลคิดใดให้ขื่นขม
หวังเพียงลูกปลอดภัยได้ชื่นชม
ก็สุขสมใจแม่อย่างแท้จริง
ตั้งแต่น้อยจนใหญ่ใครกันเล่า
ที่ป้อนข้าวป้อนน้ำทำทุกสิ่ง
จะหนักเบาเจ้าถ่ายไม่ประวิง
ไม่ทอดทิ้งกอดกกยามตกใจ
ขวัญเอ๋ยขวัญมาอยู่มาสู่เจ้า
แม่คอยเฝ้าชูช่วยยามป่วยไข้
ยามลูกนอนสายเปลแม่เห่ไกว
แม้นริ้นไรจะขบกัดแม่พัดหนี
แม่ยอมอดให้ลูกอิ่มก็ยิ้มชื่น
ทุกวันคืนหวังให้ลูกสุขศรี
พระคุณแม่ยิ่งกว่าฟ้าปฐพี

ไม่มีความคิดเห็น: