จารุวณฺโณภิกฺขุ

จารุวณฺโณภิกฺขุ
สังกัดสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

วันอังคารที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2554

นักธรรมชั้น ตรี

ปัญหาพุทธประวัติ
๑. ชมพูทวีปได้แก่ประเทศอะไรในปัจจุบัน ? (อินเดีย,เนปาล,ปากีสถาน,อัฟกานิสถาน,บังกลาเทศ, ศรีลังกา)
๒. พวกมิลักขะกับพวกอริยกะ ใครอาศัยอยู่ในชมพูทวีปมาก่อน ? (พวกมิลักขะ)
๓. ชนที่มีความเจริญทางขนบธรรมเนียม และอำนาจมาก คือ….(ชนชาวอริยกะ)
๔. ชมพูทวีปมีกี่ส่วน ? (มี ๒ ส่วน คือ มัชฌิมชนบท และปัจจันตชนบท)
๕. เมืองที่เป็นใจกลางของประเทศเรียกว่าอย่างไร ? (มัชฌิมประเทศ)
๖. ชนบท ๑๖ แคว้นในชมพูทวีป คือ…(อังคะ มคธะ กาสี โกสละ วัชชี มัลละ เจตี วังสะ กุรุ ปัญจาละ มัจฉะ สุรเสนะ อัสสกะ อวันตี คันธาระ และกัมโพชะ)
๗. ชื่อแคว้นนอกเหนือไปจาก ๑๖ แคว้น มีเท่าไร ? (มี ๕ แคว้น คือ สักกะ โกลิยะ ภัคคะ วิเทหะ อังคุตตราปะ)
๘. ผู้ปกครองแผ่นดินในครั้งนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นอย่างไร ? (เป็นมหาราชบ้าง เป็นราชาบ้าง เป็นอธิบดีบ้าง)
๙. การปกครองในครั้งนั้นเป็นรูปแบบใด ? (ปกครองโดยอำนาจสิทธิ์ขาดบ้าง โดยสามัคคีธรรมบ้าง บางครั้งก็เป็นอิสระบ้าง บางครั้งก็ถูกเขาปกครองบ้าง)
๑๐. ทำไมคนยุคนั้นจึงมีทิฐิมาก ? (เพราะศึกษาวิชาธรรมมาก)
๑๑. พระเจ้าโอกากราชมีพระราชโอรสกี่พระองค์ ? (มี ๙ พระองค์ คือพระราชบุตร ๔ พระองค์ และพระราชธิดา ๕ พระองค์)
๑๒. พระราชโอรสและพระราชธิดาไปสร้างพระนครใหม่ที่ไหน ? (ที่ป่าไม้สักกะ)
๑๓. ป่าไม้สักกะเป็นที่อยู่ของใครมาก่อน ? (ของกบิลดาบส) ๑๔. ในแคว้นวัชชีมีกษัตริย์วงศ์ไหนปกครอง ? (กษัตริย์วงศ์เจ้าลิจฉวี)
๑๕. ในแคว้นมัลละ มีกษัตริย์วงศ์ไหนปกครอง ? (กษัตริย์วงศ์เจ้ามัลละ)
๑๖. พระเจ้าโอกากราช มีพระราชบุตร-ราชธิดา สมสู่กันเองสืบเชื้อสายสกุลลงมาเป็นพวกไหน ? (เป็นพวกศากยวงศ์)
๑๗. ที่ได้นามว่า ศากยะ หรือสักกะ เพราะสาเหตุอะไร
(มี ๒ สาเหตุ คือ ๑. น่าจะได้ตามชื่อชนบท ๒. ท่านสันนิษฐานว่า พระบิดาทรงชมเชยว่าเป็นผู้สามารถที่ตั้งเมืองใหม่ได้ ฉะนั้น จึงชื่อว่า ศากยะ หรือสักกะ)
๑๘. พระเจ้าชัยเสน มีพระราชบุตร-ราชธิดา ๒ พระองค์ คือ…(สัหนุกุมาร และพระนางยโสธรา)
๑๙. พระเจ้าสีหนุกับพระเจ้าอัญชนะ เป็นอะไรต่อกัน ? (ต่างก็ได้น้องสาวของกันและกันมาเป็นพระมเหสี)
๒๐. ใครเป็นพระราชบิดา-ราชมารดา ของพระพุทธเจ้า ? (พระเจ้าสุทโธทนะ และพระนางสิริมหามายา)
๒๑. สิทธัตถะกุมาร ประสูติที่ไหน เมื่อไร ? (ที่ใต้ร่มไม้สาละ ณ สวนลุมพินีวัน ในระหว่างกรุงกบิลพัสดุ์กับกรุงเทวทหะะต่อกัน เมื่อเดือนวิสาขมาส ดิถีเพ็ญ ก่อนพุทธศก ๘๐ ปี)
๒๒. เมื่อพระกุมารประสูติ ได้มีปาฏิหาริย์อะไรบ้าง ? (มีอย่างนี้ คือ
๑) พระมารดาประทับยืน
๒) ประสูติอย่างบริสุทธิ์ไม่แปดเปื้อนมลทิน
๓) มีเทวดามารับก่อน
๔) มีธารน้ำร้อนน้ำเย็นตกลงมาจากอากาศสนานพระกาย
๕) ทรงพระดำเนินได้ ๗ ก้าว
๖) ทรงเปล่งพระวาจาเป็นบุพนิมิตแห่งโพธิญาณ
๗. แผ่นดินไหว
๒๓. คติ ๒ อย่างของพระศาสดา คืออะไร
? (๑. ถ้าออกบวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ๒. ถ้าครองฆราวาส จะได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิ์)
๒๔. ใครที่เข้าเยี่ยมและทำนายว่ามีคติเป็น ๒ พร้อมกับกราบพระกุมารด้วย ? (อสิตดาบส)
๒๕. เจ้าชายสิทธัตถะ ศึกษาศิลปวิทยากับใคร ? (ครูวิศวามิตร)
๒๖. เจ้าชายสิทธัตถะทรงอภิเษกเมื่อเมื่ออายุเท่าไร ? (๑๖ พรรษา)
๒๗. เจ้าชายสิทธัตถะออกผนวชเมื่อพระชนม์เท่าไร ออกกับใคร ? (เมื่อ ๒๙ พรรษ กับนายฉันนะ)
๒๘. ใครที่ทำนายลักษณะของสิทธัตถะกุมารว่ามีคติอย่างเดียว คือต้องออกบวชและได้ตรัสรู้แน่ ? (โกณฑัญญะ)
๒๙. พระเจ้าสุทโธทนะทรงไหว้พระโอรสกี่ครั้ง ตรงไหนบ้าง
(๓ ครั้ง คือ ๑)ตอนอสิตดาบสกราบพระกุมารและทำนายลักษณะ ๒)ตอนพระกุมารนั่งสมาธิใต้ร่มชมพูพฤกษ์ และ ๓)ตอนที่พระพุทธเจ้าแสดงปาฏิหาริย์ ทรมานพวกญาติ)
๓๐. พระบิดาให้สร้างปราสาท ๓ ฤดู ให้พระกุมารเพื่อประโยชน์อะไร ? (เพื่อจะผูกพระกุมารให้อยู่ในราชสมบัติ)
๓๑. เทวทูต ๔ คืออะไร ? (คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และบรรพชิต)
๓๒. เจ้าชายสิทธัตถะเสด็จออกบรรพชาในเวลาไหน ? ไปด้วยอะไร กับใคร ? (เวลากลางคืน ทรงม้ากัณฐกะออกไป พร้อมด้วยนายฉันนะเป็นคนติดตาม)
๓๓. พระองค์ทรงอธิษฐานเพศเป็นบรรพชิต ณ ที่ไหน ? (ที่ฝั่งแม่น้ำอโนมา)
๓๔. พระองค์คิดอย่างไรจึงพอพระทัยในบรรพชา ? (เห็นว่า ฆราวาสคับแคบ เป็นที่ตั้งแห่งอารมณ์เศร้าหมองได้ง่าย)
๓๕. พระองค์ตัดพระเกสาให้ยาวเท่าไร ? (ยาว ๒ นิ้ว)
๓๖. การเสด็จออกบรรพชา พระอรรถกถาจารย์แสดงไว้กี่นัย ? (๒ นัย คือ เสด็จออกในเวลากลางคืน และทรงผนวชต่อหน้าพระราชบิดาและมารดา ซึ่งกำลังเศร้าโศกอยู่) ๓๗. ผ้าที่เขาย้อมด้วยเปลือกไม้บ้าง แก่นไม้บ้างแล้วแต่จะ
หาได้ มีสีหม่นๆ คือผ้าอะไร? (ผ้ากาสายะหรือผ้ากาสาวะ)
๓๘. ไตรจีวร มีอะไรบ้าง ? (มี ๑. ผ้าสังฆาฏิ ๒. ผ้าอุตตราสงฆ์ ๓. ผ้าอันตรวาสก)
๓๙. เจ้าชายสิทธัตถะ ออกบวชเมื่ออายุเท่าไร ? (๒๙ พรรษา)
๔๐. เจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้ว แสวงหาโมกขธรรมอยู่กี่ปี จึงได้ตรัสรู้ ? (๖ ปี)
๔๑. ใครเป็นผู้ทูลว่าถ้าตรัสสรู้แล้วขอให้เสด็จมาเทศนาโปรด? (พระเจ้าพิมพิสาร)
๔๒. พระองค์ได้อะไรจากสำนักของอาฬารดาบสและอุทกดาบส ?(ได้สมาบัติ ๗ ในสำนักอาฬารดาบส และได้สมาบัติ ๘ ในสำนักของอุทกดาบส)
๔๓. อาฬารดาบสและอุทกดาบส สรรเสริญพระองค์ว่าอย่างไร ? (ว่ามีความรู้เสมอด้วยตนและเชิญให้อยู่สอนศิษย์ด้วยกัน)
๔๔. ทำทุกกรกิริยาวาระแรก ทำอย่างไร ? (กัดฟันด้วยฟัน เอาลิ้นกดเพดาลไว้แน่น จนเหงื่อไหลออกจากรักแร้)
๔๕. ทุกกรกิริยาวาระที่สองทำอย่างไร ? (ทรงผ่อนกลั้นลมหายใจเข้าออก เมื่อลมเดินไม่สะดวกทางช่องจมูกและปาก ก็เกิดเสียงดังอู้ทางหูทั้งสองทำให้ปวดศีรษะ จุกเสียดในท้อง ร้อนกายอย่างแรง)
๔๖. ทุกกรกิริยาวาระที่สามทำอย่างไร ? (ทรงอดอาหารเสวยแต่วันละน้อยๆ และอาหารละเอียดจนร่างกายซูบผอมผิวพรรณเศร้าหมองจนกระดูกปรากฏทั่วกาย มื่อลูตัวขนก็หลุดร่วงไปด้วย)
๔๗. ปัญจวัคคีย์บรรพชิต ๕ รูป คือใครบ้าง ? (โกณฑัญญะ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ และอัสสชิ)
๔๘. พวกปัญจวัคคีย์หนีจากพระพุทูเจ้าแล้วไปยู่ที่ใด ? (ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน แขวงเมืองพาราณส)
๔๙. พระพุทธเจ้าทำทุกกรกิริยานั้น ทำอย่างไร ? (ทำอัตตกิลมถานุโยค)
๕๐. ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แขวงเมืองพาราณสี ปัจจุบันเรียกว่าอะไร ? (พุทธคยา)
๕๑. การตั้งพระทัยว่าแม้เลือดและเนื้อในกายของเราจะเหือดแห้งไปเหลือแต่หนังเอ็นกระดูกก็ตามเถิด ถ้าไม่บรรลุสัมมาสัมโพธิญาณแล้วจะไม่ลุกขึ้นเรียกว่า ปณิธานอะไร
(จตุรงคมหาปธาน)
๕๒. พระพุทธเจ้าตรัสรู้ในวันไหน ?(คืนวันพุธ ขึ้น ๑๕ ค่ำเดือน ๖ ปีระกา ก่อนพุทธศักราช ๔๕ ปี)
๕๓. ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ คืออะไร ? (ญาณที่ทำให้ระลึกชาติก่อนๆได้)
๕๔. จุตูปปาตญาณ คืออะไร ? (ญาณที่ทำให้ทราบการจุติและเกิดของสัตว์ทั้งหลาย หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ทิพจักษุญาณ)
๕๕. อาสวักขยญาณ คืออะไร ?(ญาณอันทำให้กิเลสทั้งมวลสิ้นไป)
๕๖. ญาณทั้ง ๓ พระองค์ได้เมื่อไร ? (ได้เมื่อคืนจะตรัสรู้ คือปุพเพนิวาสานุสสติญาณได้ในตอนปฐมยาม จุตูปปาตญาณ ได้ในมัชฌิมยาม อาสวักขยญาณได้ในปจฉิมยาม)
๕๗. ใครถวายบิณฑบาตแก่พระองค์ในคราวจะตรัสรู้ ? (
นางสุชาดาบุตรีของนายบ้านเสนานิคมถวาย)๕๘. พระองค์รับบิณฑบาตรแล้ว เสด็จไปไหนและทำอะไร (ไปยังแม่น้ำเนรัญชรา ทรงสรงแล้ว จึงเสวยข้าวมธุปายาส และก็ลอยถาดในแม่น้ำนั้น)
๕๙. ใครถวายหญ้าแก่พระองค์ ?(โสตถิยพราหมณ์)
๖๐. บารมี ๑๐ ทัศ คืออะไรบ้าง ? (คือ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริย ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และอุเบกขา)
๖๑. พาณิช ๒ พี่น้อง คือตปุสสะ และภัลลิกะ ไปเาพระพุทธเจ้าที่ไหน ? (ที่ใต้ร่มไม้เกต)
๖๒. การเข้าถึงพระพุทธ และพระธรรมเป็นที่พึ่ง เรียกว่าอะไร ? (เทววาจิกา)
๖๓. ดอกบัว ๔ เหล่า คืออย่างไร ? (๑. ดอกบัวที่พ้นน้ำแล้วพร้อมที่จะบาน ๒. ดอกบัวที่ตั้งอยู่เสมอน้ำ ๓. ดอกบัวที่ยังไม่ขึ้นจากน้ำ ๔. ดอกบัวที่อยู่ในเปลือกตมพร้อมจะเป็นอาหารของปลาและเต่า) ๖๔. อุปกาชีวกพบพระพุทธเจ้า ณ ที่ใด ? (ระหว่างแม่น้ำคยา กับแดนมหาโพธิ์ต่อกัน)
๖๕. พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้ดวงตาเห็นธรรมเพราะธรรมเทศนาอะไร ? (ธัมมจัปปวัตตนสูตร)
๖๖. ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ ใครบวชเป็นคนแรก และด้วยวิธีอะไร ? (พระอัญญาโกณฑัญญะ ด้วยเอหิภิกขุอุปสัมปทา)
๖๗. ปัญจวัคคีย์ทั้ง ๕ สำเร็จเป็นพระอรหันต์ด้วยเทศนาอะไร ? (อนัตตลักขณสูตร)
๖๘. ใจความของธัมมจัปปวัตตนสูตร มีความหมายว่าอย่างไร ? (ที่สุด ๒ อย่าง คือกามสุขัลลิกานุโยค และอัตตกิลมถานุโยค อันบรรพชิตไม่ควรประพฤติ และทรงแสดงทางสายกลางว่า บรรพชิตควรประพฤติซึ่งมีองค์ ๘ เป็นทางที่จะให้บรรลุมรรคผลได้ จากนั้นก็ทรงแสดง อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
๖๙. เห็นอย่างไรจึงชื่อว่าดวงตาเห็นธรรม ? (เห็นว่า สิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นเป็นธรรมดา สิ่งนั้นทั้งหมดก็มีความดับเป็นธรรมดา)
๗๐. ใจความของอนัตตลักขณสูตร มีว่าอย่างไร ? (ขันธ์ ๕ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่ใช่ตัวไม่ใช่ตน ไม่ควรที่จะไปยึดมั่นถือมั่น)
๗๑. พระศาสดาทรงแสดงเทศนาอนุปุพพิกถา อย่าวไร ? (แสดงอย่างนี้คือ
ก. ทานกถา พรรณนาถึงการให้ การบริจาคก่อน
ข. สีลกถา พรรณนาถึงศีล การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย
ค. สัคคกถา พรรณนาถึงสวรรค์ คือผลของความดีที่บุคคลพึงได้ เมื่อทำทาน และรักษาศีลแล้ว
ฆ. กามาทีนวกถา พรรณนาถึงโทษของความใคร่ในกาม
ง. เนกขัมมานิสังสกถา พรรณนาถึงอานิสงส์แห่งการออกจากกาม เป็นลำดับสืบต่อกันไปอย่างนี้)
๗๒. ใครที่ปฏิญญาตนเป็น อุบาสกและอุบาสิกา โดยถึงรัตนะทั้ง ๓ เป็นที่พึ่งคนแรก ? (บิดามารดาและภรรยาของพระยสะ)
๗๓. สหายของพระยสมีเท่าไร ใครบ้าง ? (มี ๕๔ คน มีชื่อปรากฏ ๔ คนคือ วิมละ สุพาหุ ปุณณชิ ควัมปติ อีก ๕๐ คนไม่ปรากฏชื่อ)
๗๔. ชฎิล ๓ พี่น้อง คือใครบ้าง มีบรวารคนละเท่าไร ?
(๑. พี่คนใหญ่ ชื่ออุรุเวลากัสสปะ มีบริวาร ๕๐๐ คน
๒. คนกลาง ชื่อนทีกัสสปะ บริวาร ๓๐๐ คน
๓. คนเล็ก ชื่อคยากัสสปะ มีบริวาร ๒๐๐ คน)
๗๕. ชฎิล ๓ พี่น้องพร้อมด้วยบริวาร บรรลุธรรมด้วยเทศนาอะไร ? (อาทิตตปริยายสูตร)
๗๖. อาทิตตปริยายสูตร มีใจความว่าอย่างไร ? (ว่า อายตนภายใน อายตนภายนอก วิญญาณ สัมผัส และเวทนาเป็นของร้อน ร้อนเพราะไฟ คือราคะ โทสะ โมหะ ร้อนเพราะความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ความเศร้าโศกร่ำไรรำพันต่างๆ)
๗๗. การบวชที่พระศาสดาทรงอนุญาตให้พระสาวกบวชได้เอง ได้แก่อะไร ?(ติสรณคมนูปสัมปทา หรือ ไตรสรณคมน์)
๗๘. ใครเป็นผู้ถวายอุทยานเวฬุวัน ? (พระเจ้าพิมพิสาร)
๗๙. เหตุใด พระพุทธเจ้าจึงประดิษฐานศาสนาในมคธก่อน ? (เพราะเป็นที่รวมอยู่ของคณาจารย์ เจ้าลัทธิต่างๆมากมาย)
๘๐. ความประสงค์ ๕ ประการของพระเจ้าพิมพิสาร คืออะไร ? ( ๑. ขอให้ข้าพเจ้าได้อภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินในมคธนี้
๒. ขอให้ท่านผู้เป็นอรหันต์ พึงมาสู่แคว้นของข้าพเจ้า
๓. ขอให้ข้าพระองค์ได้นั่งใกล้พระอรหันต์
๔. ขอพระอรหันต์พึงแสดงธรรมแก่ข้าพเจ้า            
๕. ขอให้ข้าพเจ้ารู้ทั่วถึงธรรมของพระอรหันต์)๘๑. ใครได้ดวงตาเห็นธรรมแล้วไปบอกเพื่อนจนได้ดวงตาเห็นธรรมตาม และเพื่อนคือใคร ?(พระสารีบุตร เพื่อน คือ พระโมคคัลลานะ) ๘๒. พระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ใครได้บรรลุพระอรหันต์ก่อน ที่ไหน กี่วันจึงได้บรรลุ ? (พระโมคคัลลานะได้บรรลุก่อน ที่บ้านกัลลวาลมุตตคาม แขวงเมืองราชคฤห์ หลังจากบวชแล้ว ๗ วัน ส่วนพระสารีบุตร บรรลุที่ถ้ำสุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ แขวงเมืองราชคฤห์ หลังจากบวชแล้ว ๑๕ วัน)
๘๓. พระอัครสาวกทั้ง ๒ ได้รับการยกย่องในทางไหน ? (พระสารีบุตร ในทางมีปัญญามาก พระโมคคัลลานะในทางมีฤทธิ์มาก)
๘๔. อุปติสสะ ได้ฟังธรรมจากใครจึงได้ดวงตาเห็นธรรม ? (พระอัสสชิ)
๘๕. พระศาสดาแสดงธรรมให้ใครฟัง พระสารีบุตรจึงได้บรรลุพระอรหันต์ตามกระแสธรรมนั้น ? (ทีฆนขอัคคิเวสนโคตร)
๘๖. ความเห็นที่ว่า สิ่งทั้งปวงไม่ควรแก่ข้าพระเจ้าๆ ไม่ชอบใจหมดนี้เป็นทิฏฐิของใคร ? (ทีฆนขอัคคิเวสนโคตร)
๘๗. พระศาสดาทรงเปรียบพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะเหมือนอะไร ? (พระสารีบุตรเปรียบเหมือนมารดา พระโมคคัลลานะเปรียบเหมือนนางนม)
๘๘. เมืองมคธกับอังคะ รวมเข้ากันโดยมีราชคฤห์เป็นเมืองหลวงนั้น มีอาณาเขตติดต่อกับแดนอื่นอย่างไร ?
( ก. ทิศเหนือ จรดกาสีชนบทอันสมทบกับโกศลชนบท
ข. ทิศตะวันออกจรดวัชชีชนบท
ค. ทิศใต้จรดมหาสมุทร หรือกลิงคชนบท
ง. ทิศตะวันตก จรดกับชนบทอะไรยังไม่พบหลักฐานแน่นอน)
๘๙. พระมหากัสสปะ เมื่อเป็นมาณพมีชื่อว่าอย่างไร ? (ปิปผลิมาณพ)
๙๐. พระศาสดาประทานการบวชแก่พระมหากัสสปะ โดยประทานโอวาทกี่ข้อ ณ ที่ไหน ?(๓ ข้อ ที่ใต้ร่มไม้ไทร เรียกว่า พหุปุตตนิโครธ ในระหว่างเมืองราชคฤห์กับเมืองนาลันทาต่อกัน)
๙๑. พระศาสดาทรงอนุญาตให้พระสาวกรับเสนาสนะได้นั้น เสนาสนะมีกี่ชนิด ? (มี ๕ ชนิด คือ
๑. วิหาร เรือนที่มีหลังคาธรรมดา
๒. อัฑฒโยค เรือนที่มุงเพียงข้างเดียว
๓. ปราสาท เรือนเป็นชั้นๆที่สวยงามน่ารื่นรมย์
๔. หัมมิย เรือนที่มีหลังคาตัด มีลานที่แสงจันทร์ส่องลงมาได้
๕. คูหา ได้แก่ถ้ำในภูเขา)
๙๒. วันจาตุรงคสันนิบาต พระสงฆ์ทำกันอย่างไร เมื่อไร ที่ไหน ? (พระสงฆ์ ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมกัน เมื่อวันเพ็ญ เดือน ๓ ในเวลาบ่ายโดยมีเหตุ ๔ ลักษณะ คือ
๑. พระสงฆ์ที่มาประชุมล้วนเป็นพระอรหันต์
๒. พระสงฆ์เหล่านั้นล้วนแต่เป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา
๓. พระสงฆ์เหล่านั้นมาประชุมกันโดยมิได้นัดหมาย
๔. วันนั้นเป็นวันที่พระจันทร์เต็มดวงเดือนมาฆะ
ทั้งนี้มาประชุมกัน ณ เวฬุวนาราม กรุงราชคฤห์)
๙๓. การทำบุญกรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลไปให้แก่บิดาผู้ล่วงลับไปแล้ว เรียกว่าอะไร ? (ปุพพเปตพลี)
๙๔. บุรพบิดร มีเท่าไร อะไรบ้าง ? (มี ๓ ชั้น คือ บิดา ปู่ ทวด)
๙๕. เทวตาพลี ของพวกอริยกะ ทำกันอย่างไร ? (การสังเวยเทวดา มี ๒ ชนิด คือ
๑. สังเวยเทวดาที่ดี เพื่อให้มีความเอ็นดูยิ่งขึ้น ด้วยขนม นม เนย และผลไม้
๒. สังเวยเทวดาที่ร้าย เพื่อมิให้คิดร้ายต่อตน ด้วยเนื้อ เลือดของสัตว์ต่าง)
๙๖. สังฆกรรมที่พระศาสดามอบให้พระสงฆ์เป็นใหญ่นั้น มีกี่ประเภท ? (มี ๔ ประเภท คือ
๑. ภิกษุประชุมกันเพียง ๔ รูป เรียกว่า จตุวรรค สำหรับกรรมทั่วไป เว้นบางอย่าง
๒. ภิกษุเข้าประชุมกันเพียง ๕ รูป เรียกว่า ปัญจวรรค สำหรับอุปสมบทในปัจจันตชนบท และปวารณา ๓. ภิกษุเข้าประชุมกันเพียง ๑๐ รูป เรียกว่า ทสวรรค สำหรับอุปสมบทในมัธยมประเทศ
๔. ภิกษุเข้าประชุมกันเพียง ๒๐ รูป เรียกว่า วัสติวรรค สำหรับระงับอาบัติสังฆาทิเสส ที่เรียกว่า อัพภาน)
๙๗. ในพระพุทธศาสนา ใครทำปุพพเปตพลีครั้งแรก ? (พระเจ้าพิมพิสาร)
๙๘. คำว่าเปตชน หมายถึงคน กี่ชนิด ? (๒ ชนิด คือ ชนพวกที่ตายไปแล้วทั่วไป และบุรพบิดร คือญาติที่ตายไปแล้ว)
๙๙. ทักษิณาจะสำเร็จแก่ชนผู้ที่ตายไปแล้ว ด้วยลักษณะอย่างไร ? (สำเร็จดังนี้ คือ ผู้ตายต้องอยู่ในเปตตวิสัย และด้วยลักษณะ ๓ ประการ คือ
๑. ผู้ถวายทานอุทิศส่วนกุศลให้
๒. ปฏิคาหกผู้รับไทยธรรมนั้น เป็นทักขิเณยย ได้แก่ พระอริยะ
๓. ผู้ตายอนุโมทนาส่วนกุศลนั้นด้วย
๑๐๐. สักกชนบทนั้น แบ่งเป็นกี่นคร ? (แบ่งเป็น ๓ นคร คือ ๑. นครกบิลพัสดุ์ ๒. นครวิธัญญา ๓. นครโคธาฬี ในมหาปรินิพพานสูตร ได้เพิ่มนครโกลิยะเข้าอีกด้วย)
๑๐๑. ฝนโบกขรพรรษ คืออะไร ? (ฝนที่มีเมล็ดสีแดงเมื่อตกลงมา ผู้ใดปรารถนาให้เปียกก็เปียก ผู้ใดไม่ปรารถนา ก็ไม่เปียก)
๑๐๒. เวลาที่พระพุทธเจ้าเสด็จมาโปรด พะเจ้าสุทโธทนะได้กราบพระองค์กี่ครั้งแล้ว ? (๓ ครั้ง คือ
๑. เมื่อเห็นกาฬเทวินดาบสกราบ
๒. เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะ นั่งสมาธิที่ใต้ร่มไม้ เมื่อวันพืชมงคล
๓. เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาโปรด และได้ทรงแสดงปาฏิหาริย์)
๑๐๓. พระพุทธองค์แสดงธรรมโปรด พระเจ้าสุทโธทนะได้บรรลุธรรมอะไร ? (โสดาปัตติผล)
๑๐๔. พระศาสดา แสดงพระเวสสันดรชาดก แก่ใคร ที่ไหน
(แก่พระประยูรญาติ ชาวศากยะ ที่เมืองกบิลพัสดุ์)
๑๐๕. พระกาฬุทายี เป็นอะไรกับพระพุทธเจ้า ? (เป็นสหชาติกับพระองค์)
๑๐๖. อนาถบิณฑิกะ เป็นอะไรกับราชคหกเศรษฐี ? (เป็นน้องเขยของราชคหกเศรษฐี)
๑๐๗. อนาถบิณฑิกะ ได้ทำอะไรถวายพระศาสดา ? (เชตวนาราม)
๑๐๘. อนาถบิณฑิกะ ชื่อเดิมว่าอย่างไร และบรรลุธรรมอะไร ? (ชื่อสุทัตตะ บรรลุโสดาปัตติผล)
๑๐๙. สาวัตถี เมืองหลวงของแคว้นโกศล และพาราณสี เมืองหลวงของกาสี ตั้งอยู่ที่ไหน มีแม่น้ำอะไรไหลผ่าน ? (สาวัตถี ตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำอจิรวดี พาราณสีตั้งอยู่แถบลุ่มแม่น้ำเนรัญชรา เข้าใจว่าแม่น้ำโคธาวารีไหลผ่านอาณาจักรนี้)
๑๑๐. เมื่อพระพุทธองค์เสด็จมาโกศล ครั้งแรก ใครเป็นกษัตริย์ปกครอง ? (พระเจ้าปเสนทิโกศล)
ปัจฉิมโพธิกาล (ปลงพระชนมายุสังขาร)
๑๑๑. พระพุทธเจ้าปลงอายุสังขารที่ไหน วัน เดือน ปี อะไร
(ที่ปาวาลเจดีย์ เมื่อวันเพ็ญเดือน ๓ ปีมะเส็ง)
๑๑๒. ในพรรษาสุดท้าย พระองค์ประทับที่ไหน เกิดเหตุอะไรขึ้น ? (ที่บ้านเวฬุวคาม และทรงประชวรอย่างหนัก)
๑๑๓. ถ้าพระองค์อธิษฐานให้ทรงพระชนม์อยู่ต่อไปตลอกกัลป์ จะอยู่ได้ด้วยอำนาจอะไร ? (อิทธิบาทภาวนา)
๑๑๔. ทำไม พระอานนท์จึงไม่อาราธนาให้พระองค์ทรงพระชนม์อยู่ต่อไป ? (เพราะมารดลใจ)
๑๑๕. เมื่อปลงพระชนมายุสังขาร เกิดเหตุอะไรขึ้น ? (เกิดเหตุต่างๆมีแผ่นดินไหวเป็นต้น)
๑๑๖. แผ่นดินไหวเกี่ยวกับพระพุทธเจ้า มีกี่ครั้ง ? ( มี ๖ ครั้ง คือ
๑. เสด็จลงสู่พระครรภ์
๒. ประสูติ
๓. ตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ
๔. แสดงปฐมเทศนา
๕. ปลงอายุสังขาร
๖. นิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพาน) ๑๑๗. พระองค์แสดงที่ให้พระอานนท์ ทูลเชิญอาราธนาให้ดำรงพระชนม์ต่อไปกี่แห่ง ? (๑๖ แห่ง)
๑๑๘. ใครถวายบิณฑบาตแก่พระองค์เมื่อวันจะนิพพาน และถวายอะไร ? (นายจุนทะ ถวายเนื้อสุกรอ่อน)
๑๑๙. ใครถวายผ้าสิงคิวรรณแก่พระองค์ และพระอานนท์
(ปุกกุสะ บุตรของชาวมัลลกษัตริย์)
๑๒๐. พระศาสดามีกายผุดผ่องกี่ครั้ง ? (๒ ครั้ง คือในราตรีวันตรัสรู้ และในราตรีวันจะปรินิพพาน)
๑๒๑. บิณฑบาตที่มีอานิสงส์มาก มีกี่ครั้ง ใครถวาย ? (มี ๒ ครั้ง คือ
๑. บิณฑบาตที่พระศาสดาเสวยแล้วตรัสรู้ นางสุชาดาถวาย
๒. บิณฑบาตที่เสวยแล้วปรินิพพาน นายจุนนทะถวาย)
๑๒๒. พระพุทธเจ้านิพพานที่ไหน มีพระอาการอย่างไร ? (ที่สาลวัน เมืองกุสินารา ใต้ต้นสาละทั้งคู่ โดยหันพระเศียรไปทางทิศอุดร ทรงสีหไสยาสน์ข้างขวาด้วยอาการสงบ)
๑๒๓. บูชาพระพุทธเจ้าด้วยอามิส และปฏิบัติบูชา อย่างไหน ชื่อว่าบูชาอย่างแท้จริง ? (ปฏิบัติบูชา)
๑๒๔. สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล คือที่ไหนบ้าง ?
(คือ ๑. สถานที่ประสูติ ที่สวนลุมพินี
๒. สถานที่ตรัสรู้ ที่ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม
๓. สถานที่แสดงปฐมเทศนา ที่ป่าอิสิปตน-มฤคทายวัน
๔. สถานที่เสด็จดับขันธปรินิพพาน ที่สาล -วโนทยาน เมืองกสินารา)
๑๒๕. ภิกษุสงฆ์พึงปฏิบัติในสตรีทั้งหลายอย่างไร ? (ปฏิบัติอย่างนี้ คือ
๑. ไม่เห็นเสียเลย เป็นการดี
๒. ถ้าเห็นไม่ควรเจรจา
๓. ถ้าเจรจาต้องมีสติ)
๑๒๖. ผู้ที่ควรจะทำสถูปไว้ให้คนทั่วไปได้สักการะบูชา เรียกว่าอย่างไร มีใครบ้าง ?(เรียกว่าถูปารหบุคคล มี๔ คือ
๑. พระพุทธเจ้า
๒. พระปัจเจกพุทธเจ้า
๓. พระอรหันตสาวก
๔. พระเจ้าจักรพรรดิราช)
๑๒๗. ปัจฉิมสาวก คือใคร ? (สุภัททปริพพาชก)
๑๒๘. สุภัททปริพพาชก ใครเป็นผู้บวชให้ ? (พระอานนท์)
๑๒๙. พระศาสดาก่อนปรินิพพาน ได้ตรัสบอกภิกษุสงฆ์ทำอะไรแก่พระฉันนะ ? (ลงพรหมทัณฑ์)
๑๓๐. ปัจฉิมโอวาทของพระพุทธองค์ มีเนื้อความว่าอย่างไร ? (ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมความฉิบหายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจงยังประโยชน์ตนและผู้อื่นให้บริบูรณ์ด้วยความไม่ประมาทเถิด)
๑๓๑. พระศาสดานิพพานระหว่างเข้าฌานอะไร กับฌานอะไร ? (ในระหว่างจตุตถฌาน กับอากาสานัญจายตนะต่อกัน)
๑๓๒. ใครบอกว่า พระองค์นิพพานระหว่างฌานนั้น ? (พระอนุรุทธ)
๑๓๓. ตอนพระองค์นิพพาน มีพระเถระผู้ใหญ่กี่รูป ? (มี ๒ รูป คือพระอนุรุทธ กับพระอานนท์)
๑๓๔. เหตุไร พระองค์จึงเสด็จไปนิพพานที่เมืองกุสินารา ?
(เพราะเป็นเมืองที่รุ่งเรืองมาก่อน สมบูรณ์ด้วยสมบัติทุกอย่าง)
๑๓๕. เมื่อจะนิพพาน พระองค์ได้ให้ผู้ใดเป็นผู้แทนพระองค์ หรือตรัสสั่งไว้อย่างไร ? (มิได้มอบให้พระเถระรูปใดเป็นผู้แทนพระองค์ แต่ตรัสให้พระธรรมวินัยเป็นผู้แทนพระองค์
อปรกาล (เหตุการณ์ภายหลังปรินิพพาน)
๑๓๖. พระสรีระของพระองค์ได้ถูกอัญเชิญไปดิษฐาน เพื่อถวายพระเพลิง ณ ที่ใด ? (ณ มกุฏพันธนเจดีย์ ด้านตะวันออกของกรุงกุสินารา)
๑๓๗. หลังจากนิพพานแล้วกี่วัน จึงถวายพระเพลิง ? (๘ วัน) ๑๓๘. เมื่อจะถวายพระเพลิงพระมหากัสสปะพร้อมด้วยบริวาร มาจากเมืองไหน ? (เมืองปาวา)
๑๓๙. ถวายพระเพลิงแล้ว มีอะไรเหลือบ้าง ? (มีพระอัฏฐิ, เกศา, โลมา, ทันตา, กับผ้าอีกครู่หนึ่งเหลืออยู่)
๑๔๐. เมื่อถวายพระเพลิงแล้ว มีเมืองต่างๆกี่เมืองที่ส่งทูตมาขอพระอัฏฐิ ? (มี ๗ เมือง)
๑๔๒. กษัตริย์เมืองไหนที่ได้พระอังคารไป ? (โมริยกษัตริย์ เมืองปิปผลิวัน)
๑๔๓. การถวายพระเพลิง ทำกันอย่างไร ? (หุ้มด้วยผ้าขาวมีสำลีซับถึง ๕๐๐ ชั้น แล้วบรรจุลงในรางเหล็ก)
ปัญหาที่สนามหลวงชอบออก
๑๔๔. พระพุทธเจ้าเสด็จอุบัติขึ้นในวงศ์อะไร ? (ในศากยวงศ์)
๑๔๕. พระพุทธเจ้าตรัสรู้อะไร จึงได้นามว่า อรหํ, สมฺมาสมฺพุทฺโธ” ? (ตรัสรู้อริยสัจ ๔ คือ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค)
๑๔๖. เจดีย์ ๔ ประเภท อันเป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้า มีอะไรบ้าง ? (คือ ๑ ธาตุเจดีย์ ๒ . บริโภคเจดีย์ ๓. ธรรมเจดีย์ ๔. อุทเทสิกเจดีย์)
๑๔๗. อุปสมบทกรรมมีกี่อย่าง อะไรบ้าง ? (มี ๓ อย่าง คือ ๑. เอหิภิกขุอุปสัมปทา ๒. ติสรณคมนูปสัมปทา ๓. ญัตติจตุตถกรรม)
๑๔๘. ทรงปรารภเหตุอะไร จึงเสด็จออกบรรพชา ? (ปรารภ ความแก่ ความเจ็บ และความตาย)
๑๔๙. อภิญญาเทสิตธรรม คืออะไรบ้าง ? (คือสติปัฏฐาน ๔ สัมมัปปธาน๔ อิทธิบาท๔ อินทรีย์๕ พละ๕ โพชฌงค์๗ มรรค๘)
๑๕๐. เสด็จนิพพานที่เมืองไหน ประชวรพระโรคอะไร เก็บไว้นานเท่าไรจึงถวายพระเพลิง ? (ที่เมืองกุสินารา ประชารพระโรคลงพระโลหิต เก็บพระศพไว้ ๘ วัน จึงถวายพระเพลิง)
๑๕๑. เมื่อพระองค์นิพพานแล้ว ใครเป็นผู้จัดการพุทธสรีระ จัดตามแบบไหน ? (พวกมัลลกษัตริย์ จัดตามแบบพระบรมศพพระเจ้าจักรพรรดิ)
๑๕๑. โทณพราหมณ์ได้กล่าวสุนทรพจน์ ในวันแจกพระบรมสารีริกธาตุ ใจความย่อพอถือคติว่าอย่างไร ?
( ก. แถลงว่า พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญขันติธรรม และตำหนิในการทำสงครามกัน
ข. ชวนให้สามัคคีร่วมใจกัน แล้วแบ่งส่วนพระบรมสารีริกธาตุให้นำไปประดิษฐานในนานาประเทศ)
๑๕๒. ในพรรษาแรก ตรัสสอนธรรมอะไรบ้าง ?
( ๑. ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร
๒. อนัตตลักขนสูตร
๓. อนุปุพพิกถา
๔. อริยสัจ
๕. ปกิณกเทศนา)
๑๕๓.ระบบการปกครองประเทศชาติของพระพุทธเจ้าเป็นอย่างไร ? (ปกครองโดสามัคคีธรรม)
๑๕๔. ธรรมอะไรบ้างที่เรียกว่า อริยธรรม” ? (ศีล สมาธิ ปัญญา และวิมุตติ เรียกว่า อริยธรรม)
๑๕๕. วัดแรกในพระพุทธศาสนา ชื่ออะไร ตั้งอยู่ที่ไหน ใครเป็นผู้ถวาย ? (ชื่อวัดเวฬุวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานเวฬุวัน ใกล้กรุงราชคฤห์ พระเจ้าพิมพิสารถวาย)
๑๕๖. ปาวาลเจดีย์ มกุฏพันธนเจดีย์ และอานันทเจดีย์ เกี่ยวข้องกับพระศาสดาอย่างไร ? (ปาวาลเจดีย์ เป็นที่ทรงปลงพระชนมายุสังขาร มกุฏพันธนเจดีย์ เป็นที่ถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ อานันทเจดีย์ เป็นที่แสดงมหาประเทศ) ๑๕๗. ใครเป็นปฐมสาวกและปัจฉิมสาวก ? (พระอัญญาโกณฑัญญะ เป็นปฐมสาวก พระสุภัททะ(ปริพพาชก) เป็นปัจฉิมสาวก)
๑๕๘. ก่อนที่พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลก ประชาชนนับถือศาสนาอะไร ? (ศาสนาพราหมณ์)
๑๕๙. อนุปุพพิกถา คืออะไรบ้าง ทรงแสดงแก่ใคร ที่ไหนเป็นครั้งแรก ? (คือ ทาน ศีล สวรรค์ กามาทีนพ และเนกขัมมานิสงส์ ทรงแสดงแก่พระยส ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เป็นครั้งแรก)
๑๖๐. ทรงแสดงอนุปุพพิกถา แก่คนผู้พร้อมด้วยองค์อะไรบ้าง ? (พร้อมด้วยองค์ ๓ คือ ๑. เป็นมนุษย์ ๒. เป็นคฤหัสถ์ ๓. มีอุปนิสัยแก่กล้าควรบรรลุโลกุตตรธรรม)
๑๖๑. ปฐมเทศนา ปัจฉิมเทศนา ได้แก่เทศนาอะไร ? (ปฐมเทศนา ได้แก่ พระธัมมจักกัปปวัตตนสูตรฯ ปัจฉิมเทศนา ได้แก่อัปปมาทธรรม)
๑๖๒. การทำสังคายนา ให้เกิดประโยชน์แก่ศาสนาอย่างไร
(ให้ประโยชน์ดังนี้
๑. กำจัดเสี้ยนหนามของพระศาสนาให้สูญสิ้นไป
๒. ให้จัดระเบียบวางรูปการศาสนาให้เป็นไปตามธรรมวินัย
๓. สืบอายุพระศาสนาให้ดำรงอยู่ได้นาน)

ไม่มีความคิดเห็น: